xs
xsm
sm
md
lg

หุ้น FVC ขายเกลี้ยง 59.20 ล้านหุ้น เทรดวันแรก 29 ต.ค.นี้ฉลุย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ฟิลเตอร์ วิชั่น” สุดฮอต นักลงทุนตบเท้าจองซื้อไอพีโอ 59.20 ล้านหุ้นเกลี้ยง “ชูพงศ์” แกนนำจัดจำหน่ายหุ้นชี้นักลงทุนส่องอนาคตมีพื้นฐานดี จับทิศทางอุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่มยังไปได้ไกล พร้อมตั้งราคาเหมาะสมที่ 1.20 บาท มั่นใจเทรดวันแรก 29 ต.ค.56 ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง

นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการสายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) FVC เปิดเผยถึงผลการเปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) 59.20 ล้านหุ้น ในราคา
เสนอขาย 1.20 บาทต่อหุ้น ปรากฏว่า นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก ภายหลังจากเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 17-18 และ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา และขณะนี้ขายหมดแล้วทั้งจำนวน โดยหุ้น FVC จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอไอ (mai) ในวันที่ 29 ตุลาคมนี้

“ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความเชื่อมั่นในหุ้น FVC ซึ่งการตอบรับที่ดีของนักลงทุนนี้ก็สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท มีผลประกอบการที่เติบโตโดดเด่นตลอดมา และในอนาคต ก็มีแนวโน้มที่จะเติบโตสอดคล้องไปกับการเติบโตของลูกค้าที่ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่ม ซึ่งมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี อีกประการที่สำคัญในเสียงตอบรับหุ้น FVC ที่ดีในครั้งนี้คือ การกำหนดเสนอราคาเสนอขายที่ 1.20 บาทต่อหุ้น ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม เมื่อเทียบกับค่า P/E ที่ประมาณ 11 เท่า ดังนั้น เชื่อว่าเมื่อเข้าซื้อขายวันแรกในวันอังคารที่ 29 ตุลาคมนี้ FVC น่าจะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้แก่นักลงทุน” นายชูพงศ์กล่าว

สำหรับโครงสร้างการถือหุ้นของ FVC ภายหลังการเสนอขายหุ้นไอพีโอ 5 อันดับแรก คือ 1.ครอบครัวเตชะเกษม ถือหุ้น 77.58% หลังเสนอขายลดเหลือ 54.62% 2.นายศิริพงศ์ ว่องวุฒิพรชัย ถือหุ้น 10.16% หลังเสนอขายลดเหลือ 7.15% 3.นายธนพรรจน์ ตันติวัตนวิจิตร ถือหุ้น 5.78% หลังเสนอขายลดเหลือ 4.07% 4.นายมนตรี ประจันพาณิชย์ ถือหุ้น 4.63% หลังเสนอขายลดเหลือ 3.26% และ 5.นายธีระภัทท์ สอนกลิ่น ถือหุ้น 1.85% หลังเสนอขายลดเหลือ 1.30% สำหรับจำนวนหุ้นไอพีโอที่เสนอขายประชาชนทั่วไป จำนวน 59.20 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นใน FVC รวมเท่ากับ 29.60%

ดร.วิจิตร เตชะเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) FVC กล่าวว่า ปรากฏการณ์หุ้น FVC ที่ได้รับความสนใจเข้ามาจองซื้อหุ้นจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท และเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยหันมาให้ความสำคัญกับสินค้าอาหาร และเครื่องดื่มที่มีมาตรฐาน ซึ่งการให้ความสำคัญของผู้บริโภคในเรื่องนี้ได้ขยายออกไปในวงกว้าง ส่งผลดีให้บริษัทมีศักยภาพการเติบโตในอนาคต นอกจากนี้บริษัทยังเป็นผู้จัดหาผลิตภัณฑ์ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบบำบัดน้ำให้บริสุทธิ์ เช่นระบบกรองน้ำ ถังกรองไฟเบอร์กลาส หัวกรองน้ำอัตโนมัติ ไส้กรองน้ำ เครื่องฆ่าเชื้อด้วยแสงอัลตราไวโอเลต และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับระบบกรองน้ำให้บริสุทธิ์ เช่น ตู้นึ่งซาลาเปา เครื่องจ่ายเครื่องดื่ม และเครื่องทำน้ำแข็ง เป็นต้น เพื่อรองรับลูกค้า 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มธุรกิจเพื่อการพาณิชย์และที่พักอาศัย 2.กลุ่มอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำ และ 3.กลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์
 

“ในนามของ FVC ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่เข้ามาร่วมจองซื้อหุ้นของเราในครั้งนี้ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ แกนนำอันเดอร์ไรต์ บริษัทหลักทรัพย์คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ร่วมจัดจำหน่าย ซึ่งทำงานร่วมกันด้วยความตั้งใจในช่วงที่ผ่านมา จนกระทั่งทำให้นักลงทุนเข้าใจธุรกิจ และมองเห็นถึงศักยภาพที่จะเติบโต
ได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต และภายหลังการระดมทุน และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะทำให้ FVC มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับในฐานะที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จากทั้งลูกค้า และคู่ค้ามากยิ่งขึ้น อันจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขัน และสนับสนุนให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่องไปในอนาคตได้อย่างยั่งยืน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้นต่อไป”

ดร.วิจิตร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทแล้ว เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนอีกทางหนึ่ง กลุ่มเตชะเกษม ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมยินดีที่จะไม่นำหุ้นในส่วนที่ติด Silent Period มาขายเป็นระยะเวลา 6 เดือน ดังนั้น นักลงทุนจึงมั่นใจได้ว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมจะไม่นำหุ้นของบริษัทออกขายในตลาดหลักทรัพย์ในวันแรกที่หุ้นเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai อย่างแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น