ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง “จี แคปปิตอล” พร้อมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน 50 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา เตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายในปีนี้ หวังนำเงินระดมทุนใช้เป็นทุนหมุนเวียน ขยายธุรกิจบริการสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร ด้านที่ปรึกษาทางการเงิน บล.คันทรี่ กรุ๊ป คาดเสนอขายหลักทรัพย์ได้ภายในปี 2556 ผู้บริหารมั่นใจได้รับความสนใจจากนักลงทุน
นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อแก่ลูกค้าที่ต้องการซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรในหลากหลายประเภท ภายใต้แนวคิด “สินเชื่อฉับไว เกษตรกรไทยก้าวหน้า” เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้พิจารณานับหนึ่งแบบไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา
โดยบริษัทเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหลักทรัพย์ ขณะเดียวกัน ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 100,000,000 บาท โดยแบ่งเป็นทุนที่เรียกชำระแล้ว 75,000,000 บาท โดยบริษัทฯ คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ภายในปีนี้ วัตถุประสงค์นำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้เป็นทุนหมุนเวียน ขยายธุรกิจบริการสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร
“GCAP ถือเป็นหุ้นที่มีการเติบโตอย่างมั่นคงแข็งแกร่ง จากผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภายหลังจากที่ ก.ล.ต. อนุญาตให้บริษัทฯ เสนอขายหุ้นเพิ่มทุน และแบบแสดงรายการข้อมูลมีผลใช้บังคับแล้ว จะประชุมร่วมกับบริษัทฯ เพื่อกำหนดวันเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปในลำดับถัดไป ก่อนจะนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงปลายปีนี้ และเชื่อว่า เมื่อหุ้น GCAP เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai จะได้รับความสนใจ และการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน” นายชูพงศ์กล่าว
นายสันติ หอกิตติกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะนำหุ้น GCAP เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ภายหลังจากที่สำนักงาน ก.ล.ต.ได้นับหนึ่งแบบไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการเข้าระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินไปใช้เป็นทุนหมุนเวียน เพื่อขยายธุรกิจ และทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงเหลือประมาณ 2 เท่าเศษ สร้างความมั่นคงให้แก่บริษัทฯ
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล ขณะที่การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงาน และฐานะการเงินของบริษัทฯ สภาพคล่องของบริษัทฯ แผนการขยายธุรกิจ ความจำเป็น และความเหมาะสมอื่นใดในอนาคต และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการบริหารงานของบริษัทฯ ตามที่คณะกรรมการบริษัท และหรือผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เห็นสมควร และการดำเนินการดังกล่าวจะต้องก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้น
“เรามีทีมผู้บริหารบริษัทฯ ที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้เป็นอย่างดี รวมทั้งกลยุทธ์ในการเข้าถึงลูกค้า โดยอาศัยทีมงานที่มีความรู้ มีประสบการณ์ การจัดการที่ดี มีประสิทธิภาพ และการให้บริการที่สะดวกรวดเร็ว ตลอดจนมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม และโปร่งใส จะสนับสนุนให้ธุรกิจมีการขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว และได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีเป้าหมายในการเป็นผู้นำในการให้สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรแก่เกษตรกร จากการขยายกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ และขยายพื้นที่ให้การบริการในแต่ละภูมิภาค ตลอดจนการเพิ่มประเภทของสินค้าในการให้บริการด้านสินเชื่อที่หลากหลาย และครบวงจร จะเป็นอีกกลยุทธ์สำคัญให้บริษัทฯ เติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต” นายสันติ กล่าว
นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อแก่ลูกค้าที่ต้องการซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรในหลากหลายประเภท ภายใต้แนวคิด “สินเชื่อฉับไว เกษตรกรไทยก้าวหน้า” เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้พิจารณานับหนึ่งแบบไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา
โดยบริษัทเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหลักทรัพย์ ขณะเดียวกัน ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 100,000,000 บาท โดยแบ่งเป็นทุนที่เรียกชำระแล้ว 75,000,000 บาท โดยบริษัทฯ คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ภายในปีนี้ วัตถุประสงค์นำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้เป็นทุนหมุนเวียน ขยายธุรกิจบริการสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร
“GCAP ถือเป็นหุ้นที่มีการเติบโตอย่างมั่นคงแข็งแกร่ง จากผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภายหลังจากที่ ก.ล.ต. อนุญาตให้บริษัทฯ เสนอขายหุ้นเพิ่มทุน และแบบแสดงรายการข้อมูลมีผลใช้บังคับแล้ว จะประชุมร่วมกับบริษัทฯ เพื่อกำหนดวันเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปในลำดับถัดไป ก่อนจะนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงปลายปีนี้ และเชื่อว่า เมื่อหุ้น GCAP เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai จะได้รับความสนใจ และการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน” นายชูพงศ์กล่าว
นายสันติ หอกิตติกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะนำหุ้น GCAP เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ภายหลังจากที่สำนักงาน ก.ล.ต.ได้นับหนึ่งแบบไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการเข้าระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินไปใช้เป็นทุนหมุนเวียน เพื่อขยายธุรกิจ และทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงเหลือประมาณ 2 เท่าเศษ สร้างความมั่นคงให้แก่บริษัทฯ
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล ขณะที่การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงาน และฐานะการเงินของบริษัทฯ สภาพคล่องของบริษัทฯ แผนการขยายธุรกิจ ความจำเป็น และความเหมาะสมอื่นใดในอนาคต และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการบริหารงานของบริษัทฯ ตามที่คณะกรรมการบริษัท และหรือผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เห็นสมควร และการดำเนินการดังกล่าวจะต้องก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้น
“เรามีทีมผู้บริหารบริษัทฯ ที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้เป็นอย่างดี รวมทั้งกลยุทธ์ในการเข้าถึงลูกค้า โดยอาศัยทีมงานที่มีความรู้ มีประสบการณ์ การจัดการที่ดี มีประสิทธิภาพ และการให้บริการที่สะดวกรวดเร็ว ตลอดจนมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม และโปร่งใส จะสนับสนุนให้ธุรกิจมีการขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว และได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีเป้าหมายในการเป็นผู้นำในการให้สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรแก่เกษตรกร จากการขยายกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ และขยายพื้นที่ให้การบริการในแต่ละภูมิภาค ตลอดจนการเพิ่มประเภทของสินค้าในการให้บริการด้านสินเชื่อที่หลากหลาย และครบวงจร จะเป็นอีกกลยุทธ์สำคัญให้บริษัทฯ เติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต” นายสันติ กล่าว
