นักวิเคราะห์ชี้แนวโน้มหุ้นเดือน พ.ย. ยังผันผวน แต่น่าจะเป็นแค่ในระยะสั้น แนะจับตากลุ่มเกี่ยวโยงการเมือง ทั้งก่อสร้าง อสังหาฯ การเงิน ยังมีโอกาสโตได้ ส่วนมาตรการ Dynamic Price Band เชื่อไม่กระทบหุ้นตัวเล็ก เพราะมีผลต่อกลุ่มที่มีการซื้อขายถี่ เนื่องจากเป้าหมายต้องการนำมาใช้เพื่อควบคุมการซื้อขายหุ้นที่ผิดปกติ
นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มดัชนีหุ้นในเดือน พ.ย. คาดว่ายังผันผวนแต่มีโอกาสแกว่งตัวในขาขึ้นได้ แม้จะได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางการเมือง ซึ่งในระยะสั้นอาจจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่คาดว่าจะไม่กระทบหนัก เนื่องจากที่ผ่านมาการรายงานผลประกอบการของกลุ่มธนาคาร และการสื่อสารส่วนมากยังไปได้ดีจึงยังหนุนตลาดได้ รวมถึงปัจจัยจากต่างประเทศที่รอความชัดเจนจากการลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ของสหรัฐฯ ถึงจะยังมีความเสี่ยง แต่คงไม่กระทบมากเช่นกัน
สำหรับหุ้นกลุ่มที่น่าจับตามอง แนะนำกลุ่มที่เกี่ยวกับการเมือง เช่น ก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ การเงิน และอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น โดยเชื่อว่ากลุ่มนี้ยังมีโอกาสโตได้สูงขึ้น น่าจะเป็นโอกาสในการทำกำไรได้ในระยะสั้น และนักลงทุนควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดด้วย
“แนวโน้มดัชนีหุ้นไทยในเดือน พ.ย. คาดว่ายังผันผวนตามสถานการณ์การเมืองไทย รวมถึงปัจจัยต่างประเทศคือ คิวอี แต่เชื่อว่ายังมีโอกาส upside ได้ในระยะสั้นๆ จากการประเมินรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ พบว่ายังไปได้ดี และน่าจะหนุนได้อยู่ จึงไม่น่าจะมีอะไรน่ากังวล แนะนำให้นักลงทุนตามข่าวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะปัญหาการเมืองของไทย”
ส่วนมาตรการควบคุมการซื้อขายที่มีความถี่สูง (Dynamic Price Band) ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะนำมาใช้ในการซื้อขายนั้น คิดว่าจะไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อนักลงทุนในหุ้นกลุ่มเล็ก แต่น่าจะกระทบต่อหุ้นในกลุ่มที่มีการซื้อขายถี่ เพราะเป็นมาตรการที่นำมาใช้เพื่อควบคุมการซื้อขายหุ้นที่ผิดปกติ โดยภาพรวมคาดว่าจะไม่มีผลเสียใดๆ ต่อตลาดหุ้นไทย
