รับเหมาเละ
ตลาดหุ้นวันนี้ทรุดตัวลงตามความคาดหมาย เนื่องจากปัจจัยกระทบหลายด้าน ทั้งต่างชาติขาย เศรษฐกิจและการเมืองภายในวุ่นวาย แถมโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐทำท่าจะสะดุด ทำให้นักลงทุนหันมาถล่มขายหุ้นกลุ่มรับเหมาอย่างหนักจนดิ่งฮวบลงยกแผง
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,430.88 จุด ลดลง 12.69 จุด มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 44,212 ล้านบาท ต่างชาติขายเพียง 9 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นกลับสู่ภาวะน่าเป็นห่วงอีกครั้งเพราะไม่มีข่าวดีที่รอคอย ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2 ก็ไม่ใช่ความหวัง เนื่องจากกลุ่มธนาคารแม้จะมีการคาดหมายแนวโน้มกำไรเติบโตดี แต่หุ้นก็ถูกเทขาย ส่วนตลาดหุ้นทั่วโลกก็ยังไม่นิ่ง และพร้อมจะเกิดความผันผวนได้ตลอดเวลา
ปัจจัยเชิงลบกำลังปกคลุมตลาดโดยเฉพาะปัจจัยภายใน เพราะการเมืองอ่อนไหว ขณะที่การลงทุนโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐมีแนวโน้มสะดุด ทั้งโครงการบริหารจัดการน้ำ และโครงการเงินกู้2.2 ล้านบาท ทำให้กลุ่มรับเหมาได้รับผลกระทบโดยตรง ราคาปรับตัวลงมารอบนี้ประมาณ 50% ซึ่งหากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐสะดุด จะส่งผลต่อเนื่องถึงแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจจนนำไปสู่ภาวะชะลอตัวรุนแรงได้
โอกาสที่ดัชนีจะขยับขึ้นไปแตะ 1,500 จุด เลือนรางทุกที แต่โอกาสที่จะหลุด 1,400 จุดมีสูง ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการช้อนเก็บแม้ราคาจะลงมาต่ำอย่างไรก็ตาม เพราะหุ้นมีสิทธิลงต่อได้อีก
ตลาดหุ้นวันนี้ทรุดตัวลงตามความคาดหมาย เนื่องจากปัจจัยกระทบหลายด้าน ทั้งต่างชาติขาย เศรษฐกิจและการเมืองภายในวุ่นวาย แถมโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐทำท่าจะสะดุด ทำให้นักลงทุนหันมาถล่มขายหุ้นกลุ่มรับเหมาอย่างหนักจนดิ่งฮวบลงยกแผง
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,430.88 จุด ลดลง 12.69 จุด มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 44,212 ล้านบาท ต่างชาติขายเพียง 9 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นกลับสู่ภาวะน่าเป็นห่วงอีกครั้งเพราะไม่มีข่าวดีที่รอคอย ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2 ก็ไม่ใช่ความหวัง เนื่องจากกลุ่มธนาคารแม้จะมีการคาดหมายแนวโน้มกำไรเติบโตดี แต่หุ้นก็ถูกเทขาย ส่วนตลาดหุ้นทั่วโลกก็ยังไม่นิ่ง และพร้อมจะเกิดความผันผวนได้ตลอดเวลา
ปัจจัยเชิงลบกำลังปกคลุมตลาดโดยเฉพาะปัจจัยภายใน เพราะการเมืองอ่อนไหว ขณะที่การลงทุนโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐมีแนวโน้มสะดุด ทั้งโครงการบริหารจัดการน้ำ และโครงการเงินกู้2.2 ล้านบาท ทำให้กลุ่มรับเหมาได้รับผลกระทบโดยตรง ราคาปรับตัวลงมารอบนี้ประมาณ 50% ซึ่งหากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐสะดุด จะส่งผลต่อเนื่องถึงแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจจนนำไปสู่ภาวะชะลอตัวรุนแรงได้
โอกาสที่ดัชนีจะขยับขึ้นไปแตะ 1,500 จุด เลือนรางทุกที แต่โอกาสที่จะหลุด 1,400 จุดมีสูง ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการช้อนเก็บแม้ราคาจะลงมาต่ำอย่างไรก็ตาม เพราะหุ้นมีสิทธิลงต่อได้อีก