บล.เมย์แบงก์ มองหุ้นไทยช่วงปลายเดือน ต.ค. จะผันผวนน้อยลง ระบุนักลงทุนทั่วโลกยังมีมุมมองสถานการณ์สหรัฐฯ ในเชิงบวก เพราะหากปล่อยให้ผิดนัดชำระหนี้ย่อมเป็นการเกิดวิกฤต ศก. และตลาดการเงินที่ร้ายแรง ซึ่งเชื่อว่านักการเมืองทั้ง 2 พรรค ไม่สามารถรับผิดชอบต่อความเสียหายนี้ได้ หรือโอกาสเกิดกรณีนี้เป็นไปได้น้อยที่สุด
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยเดือนตุลาคม 2556 โดยยืนยันว่า ยังคงมุมมองความผันผวนต่อภาวะการลงทุนในช่วงที่เหลือของเดือน ต.ค. น้อยกว่าในช่วงครึ่งแรกของเดือน ต.ค. เพราะนักลงทุนทั่วโลกยังคงมีความคาดหวังเชิงบวกต่อสถานการณ์ในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ในกรณีที่สถานการณ์เลวร้ายที่สุด คือ สภาฯ ไม่สามารถตกลงในการขยายเพดานก่อหนี้ฯ ได้ทัน และนำไปสู่ความเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้ในช่วงที่เหลือของเดือน ต.ค. ย่อมเป็นการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ และตลาดการเงินที่ร้ายแรง ซึ่งเชื่อว่านักการเมืองทั้ง 2 พรรคไม่สามารถรับผิดชอบต่อความเสียหายนี้ได้ หรือโอกาสเกิดกรณีนี้เป็นไปได้น้อยที่สุด
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังคงแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร และหุ้นขนาดกลาง ที่แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2556 เติบโตโดดเด่น เพราะเชื่อว่าจะเห็นความคืบหน้าเชิงบวกจากสภาฯ สหรัฐฯ ในเร็วๆ นี้ ก่อนถึงกำหนดเส้นตาย ซึ่งหากผ่านตลาดหุ้นทั่วโลกจะตอบรับในเชิงบวก นั่นหมายถึงจังหวะในการขายทำกำไร (sell on fact) นั่นเอง