- ผู้บริหาร “เอมัสท์” มั่นใจปิดขายโครงการ “Lake Nakara” ไตรมาส 3 ปีหน้า เชื่อเปิด AEC นังลงทุนต่างชาติแห่ลงทุน “ขอนแก่น” เผยจีนเตรียมรุกตลาดค้าส่งเปิดศูนย์กระจายสินค้า ญี่ปุ่น จ่อลงทุนธุรกิจ SME ดันอสังหาขอนแก่นขยายตัวสูง
น.ส.เสาวภาคย์ ถนอมศักดิ์กุล ประธานการมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอมัสท์ กรุ๊ป กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดขอนแก่น มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันได้มีนักลงทุนจากส่วนกลางรายใหญ่หลายรายได้เข้ามาพัฒนาโครงการเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยมากขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 ขณะที่นักลงทุนชาวต่างชาติก็มีความสนใจในการลงทุนในจังหวัดขอนแก่นจำนวนมาก เนื่องจากได้รับปัจจัยจากภาครัฐ ซึ่งจะมีการก่อสร้างระบบลอจิสติกส์ในโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ซึ่งจะทำให้จังหวัดขอนแก่นเป็นศูนย์กลางการค้า และการลงทุน
โดยในปัจจุบัน จังหวัดขอนแก่น เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง เพราะมีนักลงทุนชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนจำนวนมาก เช่น จีน เวียดนาม ญี่ปุ่น เปรู เข้ามาทำธุรกิจลงทุน และย้ายฐานการผลิตมายังจังหวัดขอนแก่นเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนชาวจีน ซึ่งได้ร่วมมือกับหอการค้าจังหวัดขอนแก่น เตรียมเปิดศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่ในชื่อ “อู่ฟู่” สำหรับนักลงทุนชาวญี่ปุ่นจะเข้ามาทำธุรกิจเอสเอ็มอี ส่งผลในให้ราคาที่ดินในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการปรับตัวสูงขึ้น 20-30%
ทั้งนี้ เพื่อรองรับการขยายตัวของความต้องการที่อยู่อาศัยที่ขยายตัวตามแหล่งงานที่เกิดใหม่ บริษัทได้พัฒนาโครงการในจังหวัดขอนแก่น ในชื่อโครงการ “Lake Nakara” บนเนื้อที่ 77 ไร่ 281 ยูนิต ภายใต้คอนเซ็ปต์ Aqua Living บ้านล้อมทะเลสาบ บนทำเลติดเมือง โดยเปิดให้ลูกค้าจองตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดจองไปกว่า 60% หรือมูลค่ากว่า 800 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มโอนเพื่อให้ลูกบ้านได้เข้าอยู่อาศัยได้ประมาณต้นปี 2557 อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้าปิดการขายในไตรมาส 3 ปี 2557 อย่างไรก็ตาม ในปี 2557 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการเพิ่ม 1 โครงการ ในจังหวัดขอนแก่น โดยจะเน้นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัย (เรียลดีมานด์) และเตรียมขยายการลงทุนไปในจังหวัดอุดรธานี มหาสารคาม ซึ่งในปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาความต้องการของผู้บริโภค และมีแนวโน้มเข้าไปลงทุนและพัฒนา
“สำหรับภาพรวมของกลุ่มบริษัทเอมัสท์ กรุ๊ป ในปัจจุบันมียอดขายรวมแล้ว 1,200 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ในปี 2556 ที่ 1,000 ล้านบาท และภายใน 3 ปี บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 2,000 ล้านบาท”
น.ส.เสาวภาคย์ กล่าวว่า สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศไทยในปีนี้ค่อนข้างซบเซา แต่ก็ไม่ถึงกับทรุดหนัก ที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้คือ ภาคการส่งออกที่ปัจจุบันยังคงดูทรงตัว และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของภาคการท่องเที่ยว เชื่อว่านักท่องเที่ยวโดยส่วนใหญ่ยังคงเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย ซึ่งจากสถิติของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย โดยเฉพาะในจังหวัดขอนแก่น มีจำนวนสูงถึง 3 ล้านคนในปี 2556
ทั้งนี้ คาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2556 มีอัตราการเติบโตในแบบทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 3% เนื่องจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก การส่งออกที่ยังคงชะลอตัว และรวมไปถึงปัญหาทางการเมืองที่ยังไม่นิ่ง ทำให้ภาคการลงทุนชะลอตัว สำหรับภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เชื่อว่ายังเติบโตได้ดี คาดการณ์ว่าเมื่อเปิดเขตการค้าเสรี หรือเออีซี จะทำให้มีการลงทุนในเรื่องของภาคอุตสาหกรรม และมีแนวโน้มย้ายฐานการผลิตเข้ามาในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
ปัญหาขาดแคลนแรงงานยังคงเป็นประเด็นที่ทำให้ผู้ประการหลายรายประสบปัญหา แต่สำหรับที่จังหวัดขอนแก่น เชื่อว่าปัญหาแรงงานยังไม่ใช่ปัญหาหลัก เนื่องจากแรงงานที่เข้าไปทำงานใน กทม. และปริมณฑล กลับมายังถิ่นฐานเดิม โดยมีปัจจัยจากค่าแรงในจังหวัดขอนแก่น 300 บาทเท่ากับใน กทม. แต่ต่างกันตรงที่ค่าครองชีพในขอนแก่นยังไม่สูงเหมือนใน กทม.จึงส่งผลทำให้แรงงานในจังหวัดขอนแก่นมีเพิ่มขึ้น
