บิ๊กวิจิตราฯ เผยทำเลตะวันออก กทม.แข่งเดือด ผู้ประกอบการแห่ผุดโครงการเพียบ ล่าสุด เตรียมขนบ้าน 3 โครงการ มูลค่า 200 ล้านบาท ร่วมงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 29 หวังกระตุ้นยอดขายปีนี้ตามเป้า 300 ล้านบาท
นายสืบวงษ์ สุขะมงคล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วิจิตรา กรุ๊ป เปิดเผยว่า จากความเข้มงวดของสาบันการเงิน รวมถึงหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการมีความกังวลเกี่ยวกับลูกค้าที่จองซื้อบ้านแล้วไม่โอนกรรมสิทธิ์ตามระยะเวลาที่กำหนด สำหรับบริษัทขณะนี้ยังไม่พบปัญหาการโอนล่าช้า ลูกค้ายังคงโอนตามระยะเวลาที่กำหนด
“แม้ว่าความต้องการที่อยู่อาศัยยังมีอีกมาก แต่ความสามารถในการผ่อนชำระของผู้บริโภคในปัจจุบันกลับลดน้อยลง เพราะมีภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ราคาบ้านก็เพิ่มสูงขึ้นจากค่าแรง และต้นทุนการก่อสร้างที่สูงขึ้น หากใครซื้อที่อยู่อาศัยไว้ในขณะนี้ก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน” นายสืบวงษ์ กล่าว
สำหรับการก่อสร้างปัจจุบันการบริษัทยังใช้การก่อสร้างระบบเดิมคือ ก่ออิฐฉาบปูน ไม่ได้ใช้ระบบพรีแฟบแต่อย่างใด ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่พอใจในระบบนี้ แต่อย่างไรก็ตาม จากปัญหาขาดแคลนแรงงานบริษัทจึงสนใจที่จะนำระบบก่อสร้างสำเร็จรูปมาใช้ แต่คงไม่ใช่ในเร็วๆ นี้ เนื่องจากยังไม่มีความชำนาญในระบพรีแฟบ
ปีนี้ถือเป็นปีทองของผู้ซื้อ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งการแข่งขันของผู้ประกอบการทำให้ออกโปรโมชันลด แจก แถม มากมาย นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าหากสหรัฐอเมริกายกเลิกมาตรการ Quantitative Easing (QE) หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณภายในอีก 2 ปีข้างหน้า อัตราดอกเบี้ยจะปรับสูงขึ้นอีกอย่างน้อย 1% แน่นอน ดังนั้น ผู้ซื้อบ้านก็จะเสียดอกเบี้ยแพงขึ้น ของสินเชื่อได้วงเงินน้อย
ส่วนสถานการณ์ทางด้านการเมืองในปัจจุบัน อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัว แต่จะเกิดในระยะสั้นเท่านั้น แต่หากสามารถแก้ไขปัญหาได้ก็จะเป็นผลดีในระยะยาว
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายในช่วงปลายปีนี้ให้ได้ตามเป้าที่วางไว้คือ กว่า 300 ล้านบาท บริษัทจึงได้นำโครงการที่เปิดขายในปัจจุบัน ได้แก่ โครงการวิจิตราธานี โซนทอสคาน่า และโซนไลม่า, เดอะ รอยัล สามมุข, วิคทอเรีย ไพรเวทซิตี้ บางนา-ตราด ไปร่วมออกบูทในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 29 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-17 พฤศจิกายนนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยจัดแคมเปญมอบส่วนลดตั้งแต่ 5 หมื่น-1 ล้านบาท หรือเลือกอยู่ฟรี 1 ปี (เฉพาะโครงการวิจิตราธานี) รวมมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายที่ 100 ล้านบาท
