xs
xsm
sm
md
lg

MBKET ชูกองอสังหาฯ และ SBL เด่น ให้ยิลด์สูงในช่วงการเมืองผันผวน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เมย์แบงก์กิมเอ็ง” มั่นใจรายได้กำไรปีนี้โตเท่าตัวจากปีก่อน ตั้งเป้าปี 2557 รักษาระดับการเติบโตให้ใกล้เคียงปีนี้ แม้วอลุ่มทั้งตลาดจะหดตัวลง แต่เชื่องานวาณิชธนกิจหลายดีลที่เลื่อนไปเป็นปีหน้าจะช่วยสนับสนุน คาดดัชนีหุ้นไทยปีม้า 1,450  จุด P/E 13.5 เท่า วอลุ่มเทรดเฉลี่ย 4-4.5 หมื่นล้านต่อวัน ส่วนการเมืองในช่วงนี้มีความผันผวนมาก แนะนักลงทุนติดตาม ชี้กองทุนอสังหาฯ ช่วยตอบโจทย์ รวมทั้งธุรกรรม SBL ช่วยสร้างผลตอบแทนได้ ส่วนปี 57 หุ้นเกี่ยวข้อง AEC โดดเด่น

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (MBKET) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายจะรักษากำไรในปี 57 ให้ได้ใกล้เคียงกับปีนี้ แต่เชื่อว่าปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยต่อวันของอุตสาหกรรมจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4-4.5 หมื่นล้านบาท ไม่มากเหมือนเช่นปี 2556 ที่ปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันจะอยู่ที่ระดับ 5 หมื่นล้านบาท

“ผลจากครึ่งปีแรกที่วอลุ่มซื้อขายสูงมาก ทำให้คาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะเติบโตเท่าตัวจากปีก่อน หลังจากที่ 9 เดือนแรกของปีนี้มีกำไรแล้วกว่า 1,146 ล้านบาท จากปี 2555 ทั้งปีที่มีกำไร 721 ล้านบาท”

อย่างไรก็ตาม ซีอีโอ บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง ยอมรับว่างานในด้านวาณิชธนกิจในมือของบริษัท ได้มีการเลื่อนดีลงานออกไปจากปีนี้เป็นปีหน้าหลายดีล โดยปัจจุบันมีดีลอยู่ในมืออีก 5-10 ดีล ทั้งการออกและเสนอขายกองทุน การเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไป (IPO) การจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการควบรวมกิจการ

“ในปีหน้าบริษัทจะพยายามรักษากำไรให้ใกล้เคียงกับปีนี้ จากปีนี้มีฐานที่ค่อนข้างสูง แต่เราก็หวังว่าอาจจะมีการเติบโตได้เล็กน้อย ซึ่งส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนจะมาจากงานวาณิชธนกิจ” นายมนตรี กล่าว

สำหรับทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ หัวเรือใหญ่ค่ายเมย์แบงก์กิมเอ็ง กล่าวว่า ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่ ซึ่งแนะนำนักลงทุนว่าควรประเมินบนพื้นฐานความเสี่ยงที่เกิดขึ้น หากสถานการณ์คลี่คลายก็มองว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้าลงทุน หรือหากยังไม่มั่นใจ แต่ต้องการสร้างรายได้ลูกค้าของบริษัทก็สามารถนำหุ้นมาปล่อยให้บริษัทยืมเพื่อไปทำธุรกรรมยืม และให้ยืมหลักทรัพย์ (SBL) ซึ่งจะได้รับผลตอบแทนในรูปอัตราดอกเบี้ย

“ตอนนี้บางคนอยากลงทุนแต่ไม่ไม่ต้องการใช้เงินมาก ก็สามารถทำได้โดยผ่านธุรกรรม SBL ซึ่งบริษัทก็มีให้บริการแก่ลูกค้า ภาพรวมเราปล่อยวงเงินสูงสุด 15,000 ล้านบาท แต่จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้วอลุ่มดังกล่าวลดลงมาสูงสุดอยู่ประมาณ 11,000 ล้านบาท ผมอยากให้นักลงทุนลงทุนอย่างมีสติ เอาความขัดแย้ง หรืออารมณ์ทางการเมืองออกไป เหมือนที่บอกแก่พนักงานทุกคนเพื่อให้ได้ภาพการลงทุนที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้ามากที่สุด”

ขณะที่กลุ่มหุ้นที่น่าลงทุน สำหรับภาวะที่ผันผวนนั้น นายมนตรี กล่าวว่า ส่วนตัวมองที่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์  และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เนื่องจากมีอัตราการปันผลในระดับสูง และมีรายได้ที่เติบโตต่อเนื่องอย่างมั่นคง ส่วนปีหน้ามองว่าหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะมีการเติบโตสูงจากการขยายฐานเข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน

ทั้งนี้ ในปี 2557 บริษัทฯ คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะไปอยู่ที่ระดับ 1,450 จุด มีค่า P/E ที่ 13.5 เท่า ในเงื่อนไขยังต้องมีการติดตามสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไรต่อไป ประกอบกับการชะลอตัวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ของสหรัฐฯ จะมีการเลื่อนออกไปจากเป้าหมายเดิมคือ กลางปี2557 หรือไม่ ขณะที่อัตราการเติบโตด้านกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในปีหน้าเชื่อว่าจะอยู่ที่ประมาณ 14-15%
กำลังโหลดความคิดเห็น