xs
xsm
sm
md
lg

“BJCHI” เปิดเทรดวันแรกบวกทันที 30.00% จากราคา IPO ที่ 30.00 บาท ตั้งเป้าโตปี 15% ต่อเนื่องทุกปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แรงซื้อ “BJCHI” กระฉูดเปิดเทรดวันแรกวิ่งขึ้นบวก 30.00% อยู่ที่ระดับ 39.00 บาท จากราคา IPO ที่ 30.00 บาท ณ เวลา 09.59 นาที จากปัจจัยพื้นฐานหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีโครงการต่อเนื่องระยะยาวทั้งใน และต่างประเทศ  พร้อมตั้งเป้าโตต่อเนื่อง 15% ทุกปี

รายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า การเข้าซื้อขายบนกระดานของ บมจ.บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี ซึ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดที่ระดับ 39.00 บาท เพิ่มขึ้น 9.00 บาท หรือ 30.00% จากราคา IPOที่ 30.00 บาท/หุ้น ในขณะที่ SET INDEX  ดัชนีเปิดในแดนบวก โดยเมื่อเวลา 09.56 น. ดัชนีปรัปไปที่ระดับ 1,376.48 จุด เพิ่มขึ้น 3.37 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.25% มูลค่าการซื้อขาย 1,053.28 ล้านบาท ต่อมา เมื่อเวลา 10.00 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,377.50 จุด เพิ่มขึ้น 4.39 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.32% มูลค่าการซื้อขาย 2,122.96 ล้านบาท

นางจันทร์จิรา สมัครไทย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี หรือ BJCHI กล่าวว่า บริษัทฯ มั่นใจในการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรกวันนี้ แม้จะมีความกังวลในปัญหาผู้ชุมนุมที่เข้ามากระทบปัจจัยการลงทุน  แต่เชื่อว่าจะเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากบริษัทฯ มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เหมาะสมต่อการลงทุนในระยะยาว ผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง โดยในปีหน้าตั้งเป้าหมายรายได้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 15% จากปีนี้ ทั้งนี้ คาดว่ารายได้ในปีนี้จะได้ตามเป้าที่คาดไว้ที่ 4,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน  นอกจากนี้ ในช่วงที่เปิดจองหุ้นที่ผ่านมามีนักลงทุนสนใจจองซื้อหุ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งสูงกว่าหุ้นที่เสนอขายถึง 9 เท่า
 

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีโครงการที่จะเจรจาในการควบรวมกิจการกับบริษัทอื่นๆ ซึ่งคาดว่าจะได้ขอสรุปภายในไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า อย่างไรก็ตาม บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ไปใช้ลงทุนซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติม และใช้หนี้บางส่วน และนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท

อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจวิศวกรรมรับจ้างการผลิตและติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ด้วยความพร้อมของงาน และบริการ ทั้งงานแปรรูปผลิตเหล็ก งานแปรรูปและประกอบกลุ่มงานขนาดใหญ่ และงานติดตั้งนอกสถานที่ รวมไปถึงงานหล่อชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป โดยมีฐานลูกค้าส่วนใหญ่ในตลาดต่างประเทศในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น พลังงานและปิโตรเคมี เหมืองแร่ โรงไฟฟ้า โดยเฉพาะในประเทศออสเตรเลียที่มีการลงทุนจำนวนมาก โดยคาดว่าจะมีการลงทุนกว่า 350 โครงการ มูลค่ารวม 5 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ในระหว่างปี 2556-2560 จึงเป็นโอกาสที่บริษัทฯ จะเข้าไปแข่งขันเพื่อประมูลรับงานได้ในอนาคต ทั้งจากลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่
กำลังโหลดความคิดเห็น