“เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง” ปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ปีนี้เป็น 1,300 ล้านบาท จากเดิมที่วางไว้ 1,100 ล้านบาท
หลัง 9 เดือนทำผลงานได้ดีเกินคาดหมาย โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 849.44 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 199.32 ล้านบาท พร้อมแย้มผลประกอบการในไตรมาส 4/2556 ขยายตัวต่อเนื่อง เหตุมีออเดอร์ในมือเพียบ ขณะที่เตรียมลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป หวังสร้างฐานรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 10-15% ต่อปี
ดร.ธวัช อนันต์ธนวณิช กรรมการผู้จัดการ บมจ.เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง หรือ GEN เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ในปี 2556 เป็น 1,300 ล้านบาท จากเดิมที่วางไว้ 1,100 ล้านบาท หลังผลประกอบการงวด 9 เดือนออกมาดีเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมคาดว่าแนวโน้มในไตรมาส 4/2556 น่าจะดีต่อเนื่อง โดยยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งตั้งเป้าจะชนะงานประมูล มูลค่าไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท เนื่องจากได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง และด้วยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง รวมถึงเป็นผู้นำเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีมาตรฐาน จึงเชื่อว่าบริษัทจะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศยังขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะใน
ภาคอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ GEN มีแผนลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป เนื่องจากปัจจุบันไม่สามารถผลิตได้ทันต่อความต้องการ เพราะเป็นที่นิยมใช้ในการก่อสร้างค่อนข้างมาก เพราะสามารถประหยัดต้นทุนค่าแรงงานที่มีต้นทุนที่สูงขึ้น ที่สำคัญคือ ประหยัดเวลาในการก่อสร้างค่อนข้างมาก ทำให้ธุรกิจลดต้นทุนดอกเบี้ย ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าการลงทุนดังกล่าวน่าจะทำให้รายได้รวมของบริษัทเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 10-15% ต่อปี
นอกจากนี้ GEN ได้ซื้อหุ้นบริษัท ซันเทค เมทัลส์ จำกัด 32,600,000 หุ้น หรือสัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียน ในราคารวม 459,359,992 บาท เพราะเล็งเห็นถึงประโยชน์ และศักยภาพการเติบโตในอนาคต อีกทั้งเป็นการกระจายความเสี่ยงไปสู่ธุรกิจอื่น และคาดว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายและกำไรได้ โดย “ซันเทค เมทัลส์” ดำเนินธุรกิจทางด้านบริหารจัดการทางด้านเศษเหล็ก และแปรรูปเศษเหล็กเพื่อขายให้แก่โรงหลอมเหล็ก
โดยผลประกอบการงวด 9 เดือนปีนี้ รายได้รวมอยู่ที่ 849.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 157.73 ล้านบาท หรือ 22.80% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 691.71 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 199.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 157.50 ล้านบาท หรือ 376.61% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 41.82 ล้านบาท โดยสาเหตุการเติบโตมาจากกำไรจากการดำเนินงาน 105.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.97 ล้านบาท หรือ 122.90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 47.17 ล้านบาท รวมทั้งกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุน 51.54 ล้านบาท และส่วนแบ่งกำไรของบริษัท บ่อพลอย โซล่าร์ จำกัด 16.99 ล้านบาท