ข่าวในประเทศ - ยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” เล็งเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์เฟส2 ของรัฐบาล ย้ำเดือนมีนาคมปีหน้ารู้แน่ว่าจะยื่นใบสมัครหรือไม่ พร้อมยอมรับอีโคคาร์ “ยาริส ใหม่” เปิดตัวช้าไปสามเดือน มีผลทำให้ยอดขายแพ้ “ฮอนด้า” พลาดแชมป์ตลาดรถยนต์นั่งปีนี้
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมมีนโยบายสนับสนุนโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (อีโคคาร์) เฟส 2 พร้อมเปิดให้หลายค่ายรถยนต์ทั้งรายที่เคยได้รับการสนับสนุนในเฟสที่1 และรายใหม่ ลงทะเบียนขอรับสิทธ์ส่งเสริมการลงทุนภายใน 31 มีนาคม 2557
นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า โตโยต้ามีความสนใจทำอีโคคาร์ เฟส2เช่นกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา คาดว่าไม่เกินสิ้นเดือนมีนาคมปีหน้าจะมีคำตอบว่าโตโยต้าจะเข้าร่วมโครงการดังกล่าวหรือไม่
“เราตามใจนโยบายรัฐบาลและสนับสนุนเป็นอย่างดีมาตลาด สำหรับโครงการอีโคคาร์เฟส2 โตโยต้าไม่มีปัญหาเรื่องจำนวนเงินลงทุน หรือมองว่าเงื่อนไขจะไม่เสมอภาค หรือมีความได้เปรียบเสียเปรียบแก่บริษัทรถยนต์ที่ได้รับการสนับสนุนไปก่อนหน้า (อีโคคาร์เฟส1 มีผู้เข้าร่วม 5 ราย คือ นิสสัน ฮอนด้า ซูซูกิ มิตซูบิชิ และโตโยต้า) จะด้วยเงื่อนไขต้องลงทุนใหม่ 5,000 หรือ 6,000 ล้านบาท ก็แล้วแต่รัฐบาลกำหนด เพียงแต่ปัญหาสำคัญคือโตโยต้าจะมีรถที่พร้อมเข้าโครงการนี้หรือเปล่า ซึ่งเรากำลังวางแผนกันอยู่ หากได้ข้อสรุปก็จะนำเสนอรัฐบาลต่อไป”
ส่วนคำถามว่าตลาดอีโคคาร์จะอิ่มตัว หรือความต้องการซื้อในประเทศจะมีไม่เพียงพอ กับเงื่อนไขต้องผลิตรถให้ได้ 100,000 คัน ในปีที่ 4 หรือ 5 ประเด็นนี้โตโยต้าไม่ได้กังวล แม้ประเทศไทยที่มีประชากรราว 65 ล้านคน แต่ถ้ารวม พม่า ลาว เขมร เวียดนาม แล้วจะมีประชากรรวมกันถึง 250 ล้านคน ซึ่งเป็นขนาดตลาดที่น่าสนใจ
“โตโยต้ามองยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาค ทั้งไทย พม่า ลาว เขมร เวียดนาม ดังนั้นอุตสาหกรรมยานยนต์จะมีการส่งออกเพิ่มขึ้น หลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558”
นายทานาดะ กล่าวว่า หลังจากโตโยต้าได้รับสิทธิ์จากโครงการอีโคคาร์(เฟสแรก) วันนี้บริษัทพร้อมแล้วที่จะแนะนำ “โตโยต้า ยาริส ใหม่” ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาใหม่ทั้งหมด ตอบสนองทุกความต้องการ ทั้งลูกค้าเป้าหมายในกลุ่มอีโคคาร์ และกลุ่มรถยนต์นั่งตัวถังแฮทต์แบ็ก ด้วยราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย
โตโยต้าให้ความสำคัญกับการพัฒนารถยนต์ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด จึงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่รองรับการใช้พลังงานในหลายรูปแบบ เช่นเดียวกับ “ยาริส ใหม่” จะเป็นคำตอบที่ “ใช่” สำหรับทุกคนที่ต้องการรถสปอร์ตแฮทช์แบ็คที่สมบูรณ์แบบในราคาคุ้มค่า รวมถึงจะมีส่วนสำคัญในการเพิ่มยอดขายของโตโยต้า และยอดขายตลาดรถยนต์นั่งโดยรวมของไทยได้อย่างแน่นอน
สำหรับโตโยต้า ยาริส ใหม่ เป็นรถอีโคคาร์ตัวถังแฮทช์แบ็ค ที่มีความกว้างขวาง พร้อมวางเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.2 ลิตร 86 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT แบ่งการทำตลาดเป็น4 รุ่นย่อย ราคา4.69-5.99 แสนบาท ทั้งนี้โตโยต้า ตั้งเป้าหมายการขายไว้ 4,000 คันต่อเดือน
อย่างไรก็ตามต่อคำถามที่ว่า หลังจากผ่านไป 3 ไตรมาสของปี ยอดขายรถยนต์นั่งโตโยต้ายังตามหลังฮอนด้าอยู่เกือบๆ 20,000 คัน นายทานาดะ กล่าวว่า ปีนี้การแข่งขันในตลาดรถยนต์นั่งไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากโครงการการคืนภาษีรถยนต์คันแรกของรัฐบาล(สิ้นสุดปลายปี 2555) ขณะที่รถยนต์รุ่นใหม่ของโตโยต้าอย่าง “วีออส” เพิ่งจะพร้อมเดือนพฤษภาคม หรือ “ยาริส” เพิ่งจะเริ่มเปิดตัว และเร็วๆนี้จะมี “อัลติส”เพิ่มเข้ามาอีกรุ่น กับระยะเวลาที่เหลืออีก 2 เดือนกว่าๆ ถือเป็นเรื่องยากในการทำยอดขายสู้กับคู่แข่ง
“ถามว่าปีนี้โตโยต้าจะชนะในตลาดเก๋งหรือเปล่า ต้องยอมรับว่าลำบาก เพราะยาริสรุ่นเก่าขายหมดไปตั้งแต่เดือน กรกฏาคม ส่วนรุ่นใหม่นี้ก็เปิดตัวช้าไป 3 เดือน ขณะที่อัลติสโฉมปัจจุบันสต็อกใกล้หมดแล้ว ดังนั้นการแข่งขันคงต้องไปเริ่มกันใหม่ต้นปีหน้า”นายทานาดะ กล่าว
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมมีนโยบายสนับสนุนโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (อีโคคาร์) เฟส 2 พร้อมเปิดให้หลายค่ายรถยนต์ทั้งรายที่เคยได้รับการสนับสนุนในเฟสที่1 และรายใหม่ ลงทะเบียนขอรับสิทธ์ส่งเสริมการลงทุนภายใน 31 มีนาคม 2557
นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า โตโยต้ามีความสนใจทำอีโคคาร์ เฟส2เช่นกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา คาดว่าไม่เกินสิ้นเดือนมีนาคมปีหน้าจะมีคำตอบว่าโตโยต้าจะเข้าร่วมโครงการดังกล่าวหรือไม่
“เราตามใจนโยบายรัฐบาลและสนับสนุนเป็นอย่างดีมาตลาด สำหรับโครงการอีโคคาร์เฟส2 โตโยต้าไม่มีปัญหาเรื่องจำนวนเงินลงทุน หรือมองว่าเงื่อนไขจะไม่เสมอภาค หรือมีความได้เปรียบเสียเปรียบแก่บริษัทรถยนต์ที่ได้รับการสนับสนุนไปก่อนหน้า (อีโคคาร์เฟส1 มีผู้เข้าร่วม 5 ราย คือ นิสสัน ฮอนด้า ซูซูกิ มิตซูบิชิ และโตโยต้า) จะด้วยเงื่อนไขต้องลงทุนใหม่ 5,000 หรือ 6,000 ล้านบาท ก็แล้วแต่รัฐบาลกำหนด เพียงแต่ปัญหาสำคัญคือโตโยต้าจะมีรถที่พร้อมเข้าโครงการนี้หรือเปล่า ซึ่งเรากำลังวางแผนกันอยู่ หากได้ข้อสรุปก็จะนำเสนอรัฐบาลต่อไป”
ส่วนคำถามว่าตลาดอีโคคาร์จะอิ่มตัว หรือความต้องการซื้อในประเทศจะมีไม่เพียงพอ กับเงื่อนไขต้องผลิตรถให้ได้ 100,000 คัน ในปีที่ 4 หรือ 5 ประเด็นนี้โตโยต้าไม่ได้กังวล แม้ประเทศไทยที่มีประชากรราว 65 ล้านคน แต่ถ้ารวม พม่า ลาว เขมร เวียดนาม แล้วจะมีประชากรรวมกันถึง 250 ล้านคน ซึ่งเป็นขนาดตลาดที่น่าสนใจ
“โตโยต้ามองยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาค ทั้งไทย พม่า ลาว เขมร เวียดนาม ดังนั้นอุตสาหกรรมยานยนต์จะมีการส่งออกเพิ่มขึ้น หลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558”
นายทานาดะ กล่าวว่า หลังจากโตโยต้าได้รับสิทธิ์จากโครงการอีโคคาร์(เฟสแรก) วันนี้บริษัทพร้อมแล้วที่จะแนะนำ “โตโยต้า ยาริส ใหม่” ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาใหม่ทั้งหมด ตอบสนองทุกความต้องการ ทั้งลูกค้าเป้าหมายในกลุ่มอีโคคาร์ และกลุ่มรถยนต์นั่งตัวถังแฮทต์แบ็ก ด้วยราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย
โตโยต้าให้ความสำคัญกับการพัฒนารถยนต์ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด จึงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่รองรับการใช้พลังงานในหลายรูปแบบ เช่นเดียวกับ “ยาริส ใหม่” จะเป็นคำตอบที่ “ใช่” สำหรับทุกคนที่ต้องการรถสปอร์ตแฮทช์แบ็คที่สมบูรณ์แบบในราคาคุ้มค่า รวมถึงจะมีส่วนสำคัญในการเพิ่มยอดขายของโตโยต้า และยอดขายตลาดรถยนต์นั่งโดยรวมของไทยได้อย่างแน่นอน
สำหรับโตโยต้า ยาริส ใหม่ เป็นรถอีโคคาร์ตัวถังแฮทช์แบ็ค ที่มีความกว้างขวาง พร้อมวางเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.2 ลิตร 86 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT แบ่งการทำตลาดเป็น4 รุ่นย่อย ราคา4.69-5.99 แสนบาท ทั้งนี้โตโยต้า ตั้งเป้าหมายการขายไว้ 4,000 คันต่อเดือน
อย่างไรก็ตามต่อคำถามที่ว่า หลังจากผ่านไป 3 ไตรมาสของปี ยอดขายรถยนต์นั่งโตโยต้ายังตามหลังฮอนด้าอยู่เกือบๆ 20,000 คัน นายทานาดะ กล่าวว่า ปีนี้การแข่งขันในตลาดรถยนต์นั่งไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากโครงการการคืนภาษีรถยนต์คันแรกของรัฐบาล(สิ้นสุดปลายปี 2555) ขณะที่รถยนต์รุ่นใหม่ของโตโยต้าอย่าง “วีออส” เพิ่งจะพร้อมเดือนพฤษภาคม หรือ “ยาริส” เพิ่งจะเริ่มเปิดตัว และเร็วๆนี้จะมี “อัลติส”เพิ่มเข้ามาอีกรุ่น กับระยะเวลาที่เหลืออีก 2 เดือนกว่าๆ ถือเป็นเรื่องยากในการทำยอดขายสู้กับคู่แข่ง
“ถามว่าปีนี้โตโยต้าจะชนะในตลาดเก๋งหรือเปล่า ต้องยอมรับว่าลำบาก เพราะยาริสรุ่นเก่าขายหมดไปตั้งแต่เดือน กรกฏาคม ส่วนรุ่นใหม่นี้ก็เปิดตัวช้าไป 3 เดือน ขณะที่อัลติสโฉมปัจจุบันสต็อกใกล้หมดแล้ว ดังนั้นการแข่งขันคงต้องไปเริ่มกันใหม่ต้นปีหน้า”นายทานาดะ กล่าว