ปริญสิริฯ แจงเหตุปรับลดเป้ารายได้ปี 56 ถึง 2 ครั้ง เหตุการเมืองร้อนแรง หนี้ครัวเรือนพุ่งสูงต่อเนื่อง กระทบการพิจารณาปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ส่งผลให้แบงก์ปรับเพิ่มเกณฑ์การพิจารณาสถานะทางการเงินของผู้ขอสินเชื่อรายย่อย ดันยอดปฏิเสธสินเชื่อปรับตัวสูงกว่า 20-25% แจงปี 57 เดินหน้าเปิดโครงการใหม่ 6โครงการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท ยันผุดคอนโดฯ 1 โครงการ ไม่หวั่นปัญหาโอเวอร์ซัปพลาย เชื่อดันเป้ารายได้ปีหน้าโต 20%
นายชัยรัตน์ โกวิทจินดาชัย บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทได้ปรับลดเป้ารายได้ของบริษัทลงแล้ว 2ครั้ง โดยล่าสุดได้ปรับลดรายได้ทั้งปีอยู่ที่ 4,200 ล้านบาท และปรับลดยอดขายลงมาที่ 2,500 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าว่าจะมีรายได้รวมทั้งปีที่ 2,900 ล้านบาท และมียอดขายที่ 3,000 ล้านบาท ดังนั้น หลังจากที่มีการปรับลดประมาณการรายได้และยอดขายลงส่งผลให้ในปี 2556 นี้บริษัทมีรายได้และยอดขายลดลงจากปีก่อนหน้า 15-17%
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ส่งผลให้บริษัทปรับลดรายได้และยอดขายในปีนี้ถึง 2 ครั้ง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาการเข้มงวดในการพิจาารณาปล่อยสินเชื่อรายย่อยของสถาบันการเงินในช่วงกลางจนถึงปัจจุบัน โดยขณะนี้พบว่ายอดการปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงินปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 20-25% ซึ่งสาเหตุของยอดการปฏิเสธสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวหลักๆ แล้ว เกิดจากการปรับเกณฑ์การพิจารณาสถานะทางการเงินของผู้ขอสินเชื่อรายย่อย เนื่องจากสถาบันการเงินกังวลจากปัญหาการปรับตัวของหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้บริษัทมีการปรับลดรายได้ และยอดขายในปีนี้ลงถึง 2 ครั้ง คือ ปัญหาความร้อนแรงทางการเมือง และการประท้วงที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้บรัทมีการปรับลดการเปิดตัวโครงการใหม่เหลือ 5 โครงการ จากเดิมที่มีเป้ามาหยการเปิดโครงการใหม่รวม 6 โครงการ”
นายชัยรัตน์ กล่าวว่า ในปี 2557 บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่รวม 6 โครงการ มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท โดยเป็นโครงการแนวราบ 5 โครงการ และเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการ ทั้งนี้ แม้ว่าผลการศึกษารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมในปี 56 ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ธนาคาร ธอส. ว่ามีอัตราการขยายตัวสูงถึง 45% จากปีก่อนหน้า หรือมีหน่วยการเปิดตัวใหม่กว่า 75,000-80,000 หน่วยในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้เกิดความกังวลว่าในการรับโอนห้องชุดในอนาคต โดยอาจจะมีการรับโอนห้องชุดไม่สมดุลกับจำนวนเปิดขายห้องชุดในปี 56
ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วง 10 เดือนของปีนี้ยังมีอัตราการระบายออกที่ดี และในส่วนของโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัทนั้นจะได้รับการตอบรับที่ดี และสามารถปิดการขายได้ตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ เนื่องจากบริษัทมีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมาแล้ว และโครการใหม่ที่จะเปิดตัวในปีหน้านั้นจะเป็นโครงการขนาดเล็ก ซึ่งสามารถปิดการขายได้เร็ว ดังนั้น จึงจะส่งผลดีต่อรายได้ของบริษัทไปด้วยในขณะเดียวกัน โดยบริษัทคาดว่ายอดขายในโครงการคอนโดฯ จะช่วยในการผลักดันให้ยอดขายมีอัตราการเติบโตที่ 20% ได้ตามเป้าที่วางไว้
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโครงการ ซีรีน กัลปพฤกษ โครงการบ้านเดี่ยว จำนวน 62 ยูนิต บนเนื้อที่พัฒนาโครงการ 16 ไร่ ระดับราคาเริ่มต้น 9.4-17 ล้านบาท มูลค่ารวม 600 ล้านบาท โดยในช่วงเดือน ส.ค.ทีผ่านมา บริษัทได้เปิดพรีเซลโครงการดังกล่าวไปแล้ว และสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 14 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 141 ล้านบาท ดดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถปิดการขายได้ในกลางปี 57
