xs
xsm
sm
md
lg

KTBสานฝันดันกำไร6หมื่นล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"วรภัค ธันยาวงษ์" หวังต่อยอดธุรกิจ สานฝันดันแบงก์กรุงไทยปี 2559 กำไรสุทธิโต 3 เท่าประมาณ 6 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันกำไรปีละประมาณ 2หมื่นล้านบาท วางเป้าสินเชื่อปีหน้า โต 7.5% พร้อมคาดจีดีพีปีหน้าขยายตัว 5% ลุยขยายฐานสินเชื่อรายย่อย-เอสเอ็มอีหวังเพิ่มมาจิ้นสู่ระดับ 3% พร้อมหวังขยับเงินสำรองสู่ระดับ 180% ภายใน 3 ปีข้างหน้า

นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ธนาคารมีเป้าหมายที่จะเน้นการทำกำไรสุทธิในระยะ 3 ปีข้างหน้าให้เพิ่มขึ้น 3 เท่าโดยภายในปี 2559 จะต้องมีกำไรประมาณ 6 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันที่มีกำไรสุทธิเฉลี่ยนประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท โดยในระยะ 1 ปีที่ผ่านมาได้เข้ามาบริหารธนาคาร เป็นช่วงที่เข้ามารับต่อยอดธุรกิจ จึงได้ปรับโครงสร้างบริหารจัดการภายในและปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจให้เป็นเชิงรุกเพิ่มมากขึ้น
การดำเนินธุรกิจแบบเชิงรุกและการก้าวกระโดดของผลประกอบการของธนาคารในช่วง 3 ปีข้างหน้ามั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อเงินทุนของธนาคาร ซึ่งปัจจุบันธนาคารมีฐานเงินทุนอยู่ที่ประมาณ 2 แสนล้านบาท และมี Car Ratio อยู่ที่ 15% ซึ่งยังเพียงพอต่อการเติบโตของธุรกิจ และธนาคารไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการเพิ่มทุนแน่นอน
จากการที่ธนาคารได้ปรับวิสัยทัศน์ดำเนินธุรกิจในเชิงรุก คาดว่าระยะ 3 ปี ธนาคารสามารถขยับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) เพิ่มขึ้นเป็น 3% จากปัจจุบันที่อยู่ 2.7% โดยจะเน้นปล่อยสินเชื่อให้แก่กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีและรายย่อยมากขึ้น ซึ่งจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่ากลุ่มสินเชื่อรายใหญ่และสินเชื่อภาครัฐ โดยมาจิ้น ในระดับดังกล่าวถือว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกับกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ รวมทั้งต้องการที่จะลดสัดส่วนหนี้ด้อยคุณภาพ(NPL)ให้เหลือไม่เกิน 1.2% จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.7% และคาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.5% ภายในสิ้นปี 2556
การเติบโตของธุรกิจของธนาคารจะยังต้องมีการรองรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ซึ่งธนาคารวางเป้าหมายที่จะเพิ่มระดับเงินสำรองค่าเผื่อหนี้จะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพให้ขึ้นไปอยู่ในระดับ 150-180% จากปัจจุบันที่อยู่ 120% เพื่อให้ใกล้เคียงกับการกันสำรองของระบบธนาคารพาณิชย์ที่เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 200% ซึ่งมองว่าเป็นระดับที่เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคต
สำหรับปี 2557 ธนาคารตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อรวมไว้ที่ระดับ 7.5% หรือประมาณ 1.5 เท่าของจีดีพีในปีหน้าที่ธนาคารคาดว่าจะขยายตัวในระดับ 5% โดยธนาคารจะมีการเน้นไปยังกลุ่มสินเชื่อรายย่อยและเอสเอ็มอีมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนสินเชื่อทั้ง 2 กลุ่มรวมกันคิดเป็น 50% ของพอร์ตสินเชื่อรวม และธนาคารตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนดังกล่าวเป็น 60% ภายในปี 2559
“เรายังมองเป้าหมายสินเชื่อในปีหน้าจะเติบโต 1.5 เท่าของจีดีพีที่เราคาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 5% ซึ่งเราจะเน้นไปที่สินเชื่อรายย่อยกับสินเชื่อเอสเอ็มอีเพิ่มมากขึ้น ส่วนเรื่องสภาพคล่องของทั้งระบบในปีหน้าคงจะเริ่มตึงมากขึ้นเนื่องจากการขยายตัวของสินเชื่อลงทุนในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้เราก็พยายามหาเงินฝากเข้ามาเพื่อรองรับการปล่อยสินเชื่อในปีหน้า” นายวรภัค กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น