“คิวเฮ้าส์” หวั่นปัญหาแรงงานวิกฤตหนัก เร่งเพิ่มไลน์ผลิตโรงงานฟรีแฟบ ขยายสัดส่วนบ้านพรีแฟบระดับกลาง-ล่าง เป็น 100% เผยแผนลงทุน ปี 57 ทุ่ม 1.1 หมื่นล้านผุดโครงการใหม่ ระบุซื้อที่ดินแล้ว 21 แปลง
นายรัตน์ พานิชพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือคิวเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ในปี 2557 คาดว่าปัญหาวิกฤตแรงงานจะรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากถูกดึงไปในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสาธาณูปโภคด้านคมนาคม 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลต่อต้นทุนค่าก่อสร้างโดยรวมเพิ่มขึ้น 5-10% ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว บริษัทจะหันมาใช้ระบบก่อสร้างสำเร็จรูปเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ จะเพิ่มสัดส่วนการใช้พรีแฟบในบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ กลุ่มราคาระดับกลาง-ล่าง จากปัจจุบันใช้อยู่ 30% เพิ่มเป็น 100% ภายในสิ้นปีหน้า หรือต้นปี 58 พร้อมทั้งจะขยายการใช้ในคอนโดมิเนียมด้วย โดยปีหน้ามีแผนจะลงทุนอีก 20-30 ล้านบาท เพิ่มไลน์การผลิตโรงงานพรีแฟบ ซึ่งจะทำให้สัดส่วนการใช้พรีแฟปจากโรงงาน และซื้อจากผู้ผลิตภายนอก เพิ่มเป็น 30% ต่อ 70% จากปัจจุบัน 20% ต่อ 80% เพราะเชื่อว่าในอนาคตผู้ประกอบการจะหันมาใช้ผลิตภัณฑ์พรีคลาสมากขึ้น อาจทำให้สินค้าขาดตลาดได้
นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าสถานบันการเงินจะยังมีความเข้มงวดสินเชื่อรายย่อยต่อเนื่องในปีหน้า ดังนั้น บริษัทจะเพิ่มสัดส่วนเงินดาวน์คอนโดฯ เป็น 15-20% จากเดิม 10-15% ปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าของบริษัทที่ถูกธนาคารปฏิเสธสินเชื่ออยู่ประมาณ 10% ซึ่งบริษัทยังได้แนะนำให้ลูกค้าที่มีอาชีพอิสระฝากเงินประจำทุกเดือนเพื่อให้ขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น
นายรัตน์ กล่าวต่อว่า แผนการลงทุนในปีหน้า จะใช้เงินลงทุน 11,000 ล้านบาท สำหรับซื้อที่ดินใหม่ 3,000 ล้านบาท และงบการก่อสร้าง 8,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีที่ดินรองงรับการพัฒนาแล้ว 21 แปลง เป็นกรุงเทพฯ 13 แปลง และต่างจังหวัด 8 แปลง สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 5 โครงการ มูลค่ารวม 3,197 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินการในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มีรายได้รวมทั้งสิ้น 5,343 ล้านบาท เติบโต 20% แบ่งเป็นรายได้จากการขายบ้านพร้อมที่ดินและคอนโดมิเนียม 5,000 ล้านบาท เติบโต 68% รายได้จากค่าเช่าและค่าบริการ 306 ล้านบาท และรายได้อื่นอีก 37 ล้านบาท ในขณะที่รายได้ 9 เดือนอยู่ที่ 14,974 ล้านบาท เติบโต 57% มีกำไรสุทธิ 882 ล้านบาท ลดลง 184 ล้านบาท คิดเป็น 17% จากไตรมาสเดียวกันของปี 2555
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีกำไรพิเศษที่เกิดจากการขายทรัพย์สิน และโอนสิทธิการเช่าอาคารเข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ และมีกำไรสุทธิยอดสะสม 9 เดือนอยู่ที่ 2,580 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 893 ล้านบาท เติบโต 53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
