ส.ไทยรับสร้างบ้าน ชี้ปัญหาการเมือง แรงงานขาด กำลังซื้อชะลอตัว ฉุดตลาดรับสร้างบ้านปี 56 วูบ 30% เตรียมจัดงานใหญ่ THBF’ 14 ต้นปี 57 หวังเรียกความเชื่อมั่น คาดมูลค่าตลาดรวมทั่ว ปท.โตแตะ 1.5 หมื่นล้านบาทภายในปี 58 ชี้ปีหน้าตลาดต่างจังหวัดมาแรง ด้านพีดีเฮ้าส์ลุยขยาย 10 สาขาทั่วประเทศ รองรับกำลังซื้อ ตั้งเป้าปี 57 ยอดขายแตะ 2,000 ล้านบาท
นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในช่วงไตรมาส 4 ปรับตัวลดลงกว่า 20-30% จากปัญหาทางด้านกำลังซื้อที่เริ่มชะลอตัวมาตั้งแต่ไตรมาส 2 ต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 4 ประกอบกับความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนไปหันมาซื้อคอนโดมิเนียมอยู่อาศัยแทนเพื่อสะดวกสบายในการเดินทาง แม้ว่าราคาในการสร้างบ้านกับราคาคอนโดฯ จะใกล้เคียงกันก็ตาม ทำให้ตลาดส่วนนี้ถูกแย่งแชร์ออกไป ในส่วนของผู้ประกอบการ ปัญหาขาดแคลนแรงงานยังคงเป็นปัญหาใหญ่ ทำให้สร้างบ้านได้ล่าช้ากว่ากำหนดต้องรอคิวคนงานในการสร้างบ้านแต่ละหลัง หรือใช้วิธีสร้างวนไปวนมาแทน
นอกจากนี้ ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองจนนำมาสู่การประท้วงของภาคประชาชนกลุ่มต่างๆ เพื่อขับไล่รัฐบาล กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ชะลอตัวลง โดยเฉพาะกำลังซื้อในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ดังนั้น แนะว่าผู้ประกอบการที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้านควรมีแผนสำรอง หรือปรับแผนการตลาดให้สอดคล้องตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ อย่างไรก็ดี เชื่อว่าจะมีการใช้ความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้นจากทั้ง 2 ฝ่าย เพียงแต่คงต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง เพื่อนำไปสู่การเจรจาหรือหาทางออกอย่างใดอย่างหนึ่ง และเริ่มต้นเดินหน้าบริหารประเทศตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขต่อไป
จากสถานการณ์ดังกล่าว สมาคมฯ เห็นว่ากำลังซื้อผู้บริโภคที่ชะลอตัวในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ น่าจะกลับมาดีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า ดังนั้น จึงได้เตรียมจัดงานแสดงนวัตกรรมบ้าน และนิทรรศการอาชีวศึกษา ครั้งที่ 1 ขึ้นภายใต้ชื่องาน ไทยแลนด์ โฮมบิลเดอร์ แฟร์ 2014 ( Thailand Home Builder Fair 2014) หรืองาน THBF’14 ในระหว่างวันที่ 5-9 กุมภาพันธ์ 2557 ณ อิมแพค เมืองทองธานี โดยมีพื้นที่จัดงานแสดงฯ ขนาด 10,000 ตารางเมตร เพื่อใช้เป็น “เวทีกลาง” สำหรับผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมาออกบูทโชว์ และพบกับกำลังซื้อจากผู้บริโภคจากทั่วประเทศ
โดยสมาคมฯ จะเชิญชวนผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน รับสร้างบ้านอพาร์ตเมนต์ รับสร้างโรงงาน โครงการบ้านจัดสรร ผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง สถาบันการเงิน ทั้งที่เป็นสมาชิก และมิใช่สมาชิกจากทั่วประเทศ ที่สนใจมาร่วมออกบูทในงานแสดงฯ ครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการช่วยกันกระตุ้นกำลังซื้อ และผลักดันธุรกิจรับสร้างบ้านปี 2557 ให้ขยาย และเติบโตทั่วประเทศได้อีกช่องทางหนึ่ง
ทั้งนี้ สมาคมฯ ประเมินว่า ตลาดรวมรับสร้างบ้านปี 2556 นี้มีมูลค่าประมาณ 13,000 ล้านบาท และน่าจะสามารถเติบโตแตะ 15,000 ล้านบาท ได้ภายในปี 2558 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า
สำหรับการจัดงาน THBF’ 14 ครั้งนี้ สมาคมฯ ตั้งเป้ามีผู้บริโภค และประชาชนสนใจเข้าร่วมชมงานมากกว่า 1 แสนคน โดยสมาคมฯ เตรียมงบโฆษณาและประชาสัมพันธ์ไว้ 10 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้สู่ผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้าน หรือที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ
นายกสมาคมกล่าวว่า การจัดงาน THBF’ 14 ครั้งนี้ สมาคมฯ ยังได้ร่วมมือกับสำนักงานอาชีวศึกษา (สอศ.) เพื่อร่วมกันเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ของผู้ที่ศึกษาในระดับอาชีวะ จากที่เคยเห็นแต่ข่าวด้านลบ หรือยกพวกตีกัน มาสู่การนำเสนออีกด้านหนึ่งที่เป็นด้านบวก เพื่อจะสะท้อนให้เห็นถึงความรู้ความสามารถของผู้ที่เรียนอยู่ในระดับอาชีวะ โดยสมาคมฯ จะทำการรวบรวมผลงานเด่นๆ ของนักเรียนอาชีวะ ที่ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ในวิทยาลัยเทคนิค
พร้อมทั้งนำเสนอนักธุรกิจตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จระดับประเทศ ซึ่งเป็นบุคลากรที่เกิดจากผลผลิตของสถานศึกษาในระดับอาชีวะมาก่อนหน้านี้ เพื่อจัดแสดงเป็นนิทรรศการให้ผู้สนใจได้ชมกันภายในงานแสดงฯ นี้ รวมทั้งสมาคมฯ จะจัดให้มีการแข่งขันทักษะฝีมือช่างประเภททีม โดยแบ่งเป็นประเภท 1) การแข่งขันออกแบบและเขียนแบบ 2) การคำนวณ หรือประมาณราคาค่าก่อสร้าง 3) การแข่งขันตรวจสอบคุณภาพงานก่อสร้าง โดยทีมที่ชนะเลิศในแต่ละประเภทจะได้รับโล่เกียรติยศ และเกียรติบัตร พร้อมทั้งทุนการศึกษารวม 150,000 บาท จากสมาคมฯ
นอกจากนี้ สมาคมฯ จะเชื่อมโยงภาคธุรกิจรับสร้างบ้านกับสถานศึกษาระดับอาชีวะ เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างกันในการกำหนดหลักสูตร และผลิตบุคลากรให้ตรงต่อความต้องการ เพื่อป้อนเข้าสู่สถานประกอบการทั้งในระยะสั้น และระยะยาว ซึ่งถือเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานระดับช่างเทคนิค ของผู้ประกอบการรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ ทั้งปัจจุบัน และในอนาคต รวมทั้งเพื่อเป็นการสร้างความพร้อมของผู้ประกอบการ ก่อนที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี พร้อมตั้งเป้ายกระดับค่าจ้างแรงงานระดับปวช.-ปวส. สาขาช่างก่อสร้าง ให้สูงเทียบเท่าระดับปริญญาตรีทั่วไป เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้มีผู้สนใจเข้าศึกษาต่อในระดับอาชีวะมากขึ้น
นายสิทธิพร กล่าวต่อว่า สำหรับผลการดำเนินงานของกลุ่มพีดีเฮ้าส์ ในปีนี้ที่ตั้งเป้ายอดขายทั้งปีไว้ที่ 1,400 ล้านบาท แต่เนื่องจากภาวการณ์ชะลอตัวของกำลังซื้อ และความไม่สงบทางการเมืองทำให้ไตรมาส 4 ยอดขายชะลอลงมากจึงคาดว่ายอดขายในปีนี้จะทำได้ไม่ถึง 1,400 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ากำลังซื้อที่ชะลอตัวในไตรมาส 4 ของปีนี้จะทะลักเข้ามาในช่วงต้นปีหน้าหลังสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลาย อีกทั้งตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัดเติบโตขึ้นอย่างมาก ทำให้บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 57 ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมขยายสาขาให้ได้ 10 สาขา ทั้งการลงทุนเอง และการขายแฟรนไชส์กระจายไปทั่วประเทศซึ่งจะทำให้บริษัทมี 48 สาขาทั่วประเทศ