xs
xsm
sm
md
lg

แนวโน้มปีหน้าอาจมีกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายไหลกลับเข้าสู่ตลาดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.วรรณ ชี้หุ้นไทยปลายปีนี้แตะ 1,500 จุด แนวโน้มปีหน้าผันผวนมากขึ้น เนื่องจากอาจมีกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายไหลกลับเข้าสู่ตลาดของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว หลังจากมีพัฒนาการของเศรษฐกิจที่เติบโตเด่นชัดกว่าเศรษฐกิจกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา

นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทคาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปลายปีนี้ มีโอกาสแตะระดับ 1,500 จุด ขณะที่ปีหน้าจะมีความผันผวนมากขึ้น พร้อมประเมินกรอบดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,515-1,680 จุด

ทั้งนี้ เริ่มเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศต่างๆ ดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน และญี่ปุ่น หลังจากที่ชะลอตัวลงในช่วงก่อนหน้า ขณะที่เศรษฐกิจประเทศไทยชะลอตัวลงจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากการส่งออกที่ยังไม่ฟื้นตัว รวมทั้งการบริโภคภาคเอกชนก็กลับชะลอลง หลังจากที่มาตรการภาครัฐที่สนับสนุนการบริโภค และการลงทุนเริ่มทยอยหมดลง

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปีนี้ก็ปรับตัวไปตามกระแสข่าว และเหตุการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะประเด็นสำคัญจากท่าทีต่อช่วงเวลาในการชะลอนโยบายการเงินเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และประเด็นการเมืองในประเทศเป็นหลัก

อย่างไรก็ดี จากเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้น และท่าทีของนางเจเน็ต เยลแลน ซึ่งจะดำรงตำแหน่งว่าที่ประธานเฟดคนใหม่ ตั้งแต่เดือน ม.ค.57 ได้สะท้อนถึงการดำเนินนโยบาย QE ต่อไป จนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะสามารถเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพอย่างแท้จริง ทำให้คาดว่ากระแสเงินทุนน่าจะชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า

นายวิน กล่าวว่า สำหรับตลาดหุ้นในปี 57 คาดว่าจะมีโอกาสปรับตัวอย่างผันผวนมากขึ้น เนื่องจากอาจมีกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายไหลกลับเข้าสู่ตลาดของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว หลังจากมีพัฒนาการของเศรษฐกิจที่เติบโตเด่นชัดกว่าเศรษฐกิจกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา

รวมถึงยังมีโอกาสที่เฟดจะชะลอ QE ในครึ่งแรกของปี 57 ทำให้ตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจลดลง เนื่องจากอัตราการขยายตัวของกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) มีโอกาสปรับลดลงจาก 17.4% ในปี 56 มาที่ 16.0% ในปี 57

ด้านกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังคงมีความน่าสนใจ ได้แก่ กลุ่มที่อยู่อาศัย การบริโภคภายในประเทศ และกลุ่มที่สอดคล้องกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว รวมทั้งกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากการเข้าสู่กลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC-Linkage) และกลุ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
กำลังโหลดความคิดเห็น