xs
xsm
sm
md
lg

สัปดาห์นี้การเมืองยังฉุดหุ้นร่วง-บาทอ่อนต่อ คาด ตปท.ขายไม่หยุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 การเมืองยังกดดันหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ต่อ โบรกฯ เชื่อตลอดสัปดาห์ผันผวน หลังต่างชาติขายไปแล้ว 3 หมื่นล้าน กดเงินบาทอ่อนค่าแตะ 32.09 บาท และมีโอกาสอ่อนตัวลงได้อีก แต่เชื่ออีกไม่นานจะคลี่คลายลงได้เมื่อเข้าใกล้ธันวาคม ส่วนกรณียุบสภาเกิดขึ้นยาก เหตุมีการรับญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว นายกฯ ไม่สามารถยุบสภาได้

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (25-29 พ.ย.) ว่า สำหรับทิศทางของ SET Index คาดว่ายังได้รับแรงกดดันจากปัจจัยด้านการเมืองอยู่ แต่น้ำหนักที่มีต่อตลาดจะลดลงเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เชื่อว่าที่ระดับ P/E 14.5 เท่า หรือประมาณ 1,340 จะเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง ซึ่งอาจพิจารณาเพิ่มพอร์ตที่บริเวณดังกล่าว โดยจับตาดูหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง และมีการเติบโตต่อเนื่อง

     อย่างไรก็ตาม โดยประเมินจากเหตุการณ์ร้อนแรงทางการเมืองในอดีตที่ผ่านมา มักจะสงบลง หรือไม่ก็ลดความร้อนแรงลงชั่วคราวเมื่อก้าวเข้าสู่เดือนธันวาคม ขณะที่การเปิดสมัยประชุมสภาฯ รอบใหม่ จะเกิดขึ้นช่วงปลายเดือน ม.ค. หรือต้นเดือน ก.พ.2557 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว สถานการณ์การเมืองก็อาจจะกลับมาร้อนแรงใหม่ได้ และเมื่อประเมินจากการรับญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐธรรมนูญมาตรา 158 วรรคหนึ่ง กำหนดว่า เมื่อได้ยื่นญัตติแล้ว นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถใช้อำนาจในการยุบสภาฯ ได้ จนกว่าจะมีการถอนญัตติ หรือได้มีการลงมติแล้วเสร็จไปแล้ว ฝ่ายวิจัยเห็นว่า น่าจะทำให้โอกาสที่จะมีการยุบสภาภายในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2556 น้อยลงไปมาก

     ทั้งนี้ พบว่าเฉพาะเดือน พ.ย. ช่วงวันที่ 1-22 พ.ย. มีแรงขายมากถึง 30,996.42 ล้านบาท ขณะที่ตั้งแต่ต้นปี 2556 ถึงวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา พบว่ามียอดการขายสุทธิรวมสูงถึง 136,248.09 ล้านบาท ทำให้ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยจะสร้างฐานใหม่ที่ 1,380 จุด และอาจปรับลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดที่ 1,300 จุดได้ โดยสัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยบวกจากกองทุน LTF ที่เข้ามาซื้อเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ จากการเทขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติ ได้ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาแตะที่ระดับ 32.09 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และมีโอกาสจะอ่อนค่าลงได้มากกว่านี้ หากยังมีแรงขายสุทธิออกมาอย่างต่อเนื่อง

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วย ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยน่าจะเป็นลักษณะ sideways ไปจนถึง sideways down หากการเมืองไม่มีเหตุการณ์อะไรที่รุนแรง โดยจะมีแรงซื้อเข้ามารับ โดยจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่จะเข้ามาทยอยซื้อ

ด้านนายชัย  จิรเสวีนุประพันธ์  ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ตลาดทุน  บล.โนมูระ พัฒนสิน คาดว่า ตลาดหุ้นยังมีความผันผวนจากผลกระทบปัจจัยการเมือง และช่วงปลายเดือนนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของเดือน ต.ค. ซึ่งมีแนวโน้มจะชะลอการเติบโต  แต่จะมีปัจจัยบวกจากเม็ดเงินใหม่ที่จะเข้ามาจากกองทุน LTF และ RMF ทำให้จะมีแนวรับที่ 1,338 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,380 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น