ชัดเจน! เศรษฐกิจชะลอตัว “ชินคอร์ป” ลดเป้าหมายรายได้ปีนี้เหลือเติบโต 5-6% หลังลูกคนโต “เอไอเอส” ให้ผลตอบแทนลดลง จากยอดการใช้งานหดตัว เหตุลูกค้าต่างจังหวัดได้รับผลกระทบผลผลิตการเกษตร อีกทั้งโดนปัญหาการเมือง ส่อลากยาวถึงไตรมาส 4 แต่ยังปันผล 100% ด้าน “ไทยคม” ฟื้นจ่อปันผลครั้งแรกในรอบหลายปี ส่วน CSL คาดหน้าเหลืองกลับมามีกำไรปีหน้า
บริษัท ชิน คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (INTUCH) พร้อมบริษัทลูกในเครือชินคอร์ป เข้ารายงานภาพรวมธุรกิจให้แก่ผู้ถือหุ้น และนักลงทุนได้รับทราบในกิจกรรม Opportunity Day “บริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน” ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) วานนี้ (19 พ.ย.) โดยรวม น.ส.ทมยันตี คงพูลศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักนักลงทุนสัมพันธ์ INTUCH กล่าวว่า บริษัทได้ปรับลดเป้าหมายรายได้ปีนี้เหลือเติบโต 5-6% จากเดิมตั้งเป้าเติบโต 6-8% ซึ่งเป็นการปรับลดเป้าหมายตามการเติบโตที่ลดลงของบริษัทลูก โดยเฉพาะ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือเอไอเอส ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่สร้างรายได้ และกำไรจากการดำเนินงานส่งบริษัทแม่ (INTUCH) มากที่สุด จากที่ถือหุ้นอยู่ใน ADVANC ทั้งสิ้น 40.45% ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวที่ทำให้กำลังซื้อลดลง
ทั้งนี้ น.ส.นัฐยา พัวพงศกร ผู้จัดการงานนักลงทุนสัมพันธ์ ADVANC ให้ความเห็นถึงแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 4 ว่า ADVANC ยังได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่ชะลอตัวลงต่อเนื่องจากไตรมาส 3 และตั้งแต่ต้นปี เพราะกลุ่มลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าต่างจังหวัด ได้รับผลกระทบจากผลผลิตทางการเกษตรไม่เป็นไม่ตามเป้าหมาย รวมถึงปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ปริมาณในการใช้งานโทรศัพท์มือถือลดลง รวมทั้งยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ
“เรายังมั่นใจว่ารายได้ทั้งปีจะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ 5-6% จากปีก่อน 142,684 ล้านบาท ส่วนเรื่องการเมืองเรายังต้องประเมินดูก่อนอีกทีว่าได้รับผลกระทบแค่ไหน ซึ่งจะเป็นไปตามความรุนแรงที่เกิดขึ้น และระยะเวลา แต่บริษัทยังสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในอัตรา 100% ของกำไรสุทธิเหมือนที่ผ่านมา และคงระดับ EBITDA MARGIN ในปีนี้ไว้ที่ 43%”
9 เดือนที่ผ่านมา ADVANC มีรายได้ 107,672 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 27,458 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิทั้งปี 2555 อยู่ที่ 34,883 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงงบลงทุนช่วง 3 ปี (2556-2558)ไว้ที่ 70,000 ล้านบาทตามแผนงานเดิม เพื่อใช้ในขยายโครงข่าย 3G ใหม่ ซึ่งขณะนี้ได้ใช้เงินลงทุนไปแล้ว 19,000 ล้านบาท จากกระแสเงินสดของบริษัทที่ปัจจุบันยังมีกระแสเงินสด 14,287 ล้านบาท
ด้าน นายเคน สตุตเกอร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ไทยคม (THCOM) กล่าวว่า ณ ปัจจุบันบริษัทได้ขายช่องสัญญาณ (Bandwidth) ดาวเทียมไอพีสตาร์ (ไทยคม 4) แล้ว 54% ถือว่าอยู่ในระดับที่คุ้มต้นทุน จึงไม่จำเป็นต้องเร่งทำตลาด หรือขยายฐานลูกค้าเพิ่มมากนัก แต่จะเน้นหาผลกำไรจากกลุ่มลูกค้าเดิม และลูกค้ารายใหม่ที่อยู่ระหว่างการเจรจาในอินโดนีเซีย อินเดีย และฟิลิปปินส์ ที่มีศักยภาพเติบโตที่สูง โดยรวมตั้งเป้ารายได้ปี 2557 จะเติบโต 13-15% จากปีนี้ที่คาดว่ารายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย 8-10% ซึ่งจะมาจากธุรกิจดาวเทียมจากไทยคม 88% ธุรกิจลาวเทเลคอม 9-10% ที่เหลือเป็นรายได้จากโซลูชันต่างๆ
ส่วน บมจ.ซีเอส ล็อกซอินโฟ (CSL) นายอนุวัฒน์ สงวนทรัพยากร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน กล่าวว่า CSL เชื่อว่าในปี 2557 จะเติบโตเพิ่มขึ้น 4-5% ใกล้เคียงกับระดับการเติบโตของปีนี้ และปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักมาจากธุรกิจการให้บริการไอซีทีที่เติบโตดีขึ้น ขณะที่ธุรกิจสมุดหน้าเหลืองภาพรวมยังขาดทุนประมาณ 30 ล้านบาท แต่เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีแรก 2557 จะสามารถพลิกกลับมาเป็นกำไรได้
“เราปรับลดตามการเติบโตของ ADVANC เนื่องจาก ADVANC ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวที่ทำให้กำลังซื้อลดลง แต่ทิศทางกำไรในปีนี้ยังเติบโตได้ดีจากฐานลูกค้า 3G ใหม่ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ THCOM ยังคงเติบโตต่อเนื่อง และผลประกอบการจะเริ่มพลิกเป็นกำไรในปีนี้ ทำให้สามารถจ่ายปันผลได้ ทำให้เราปรับลดรายได้ปีนี้ลงเหลือโต 5-6% จาก 6-8% แต่มองว่าในช่วงที่เหลือของปียังเติบโตได้ เอไอเอสก็ยังจ่ายเงินปันผลได้ 100% และไทยคมที่กลับมามีกำไรและจะจ่ายปันผลครั้งแรก” น.ส.ทมยันตี กล่าว
