บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น เผยครึ่งปีแรกทำไรได้กว่า 3,676 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนที่เติบโตขึ้นถึง 6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เตรียมดัน 8 โมเดลธุรกิจใหม่ในครึ่งปีหลัง โดยเน้นดิจิตอล คอนเทนต์เป็นหลัก
น.ส.ทมยันตี พงษ์พูนศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น หรือ INTUCH กล่าวว่า ในครึ่งปีหลังของปีนี้ บริษัทฯได้เตรียมวางแผนธุรกิจใน 8 โมเดลใหม่ โดยแบ่งเป็น 3 โมเดลของอินทัช คือ ดิจิตอล ทีวี ซึ่งในขณะนี้อยู่ในช่วงของการศึกษาข้อมูลและรอทาง กสทช.ประกาศ ซึ่งบริษัทได้วางงบลงทุนในการประมูลช่องสัญญาณทีวีดิจิตอลไว้แล้ว ประมาณ 2 พันล้านบาท โดยคาดว่า กสทช.จะเปิดประมูลช่องสัญญาณทีวีดิจิตอลได้ในเดือน กันยายนนี้ ส่วนโมเดลที่ 2 จะเน้นในด้านแวนเจอร์ แคปปิตอล โดยเน้นมุ่งทำด้านดิจิตอล คอนเทนต์ และแอปพลิเคชันเสริมในสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต โดยไตรมาสที่ 2 บริษัทได้ใช้เงินลงทุน 5 ล้านบาท เข้าถือหุ้นคิดเป็นสัดส่วนหุ้น 30% ของบริษัท มีดิเท็ค โซลูชั่น ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์สื่อสารช่วยเหลือสำหรับผู้ป่วย และโมเดลที่ 3 จะเป็นด้านการพัฒนาดิจิตอล คอนเทนต์ ที่รองรับการใช้งานที่หลากหลายทั้งในส่วนธุรกิจ และบันเทิงมากขึ้น
ในส่วนของบริษัทลูกนั้น ได้แก่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ ADVANC ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่แบรนด์ AIS ระบบ 2.5G หรือ 3G บนคลื่นความถี่ 2,100 Mhz นั้น ทำกำไรในไตรมาสที่ 2 กว่า 3,676 ล้านบาท โดยหลังจากที่ทาง กสทช.ได้ออกใบอนุญาตการให้บริการสัญญาณ 3G แล้วนั้น ขณะนี้ AIS ได้ใช้เงินลงทุน 12,000 ล้านบาท ขยายการให้บริการระบบ 3G ครอบคลุมพื้นที่ 60 จังหวัดแล้ว ทั้งนี้ คาดว่าจะคลอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศภายในปีนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่ลูกค้าเปิดใช้บริการเบอร์ใหม่ ลูกค้าที่ย้ายจากผู้ให้บริการค่ายอื่นมาเปิดบัญชีเบอร์ใหม่ และลูกค้าที่เปลี่ยนระบบจาก 2.5G มาใช้ระบบ 3G มากขึ้น โดยคาดว่าภายในสิ้่นปีนี้จะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 8-10 ล้านราย ทั้งนี้ เตรียมที่จะต่อยอดไปสู่ระบบ 4G LTE ในอนาคต โดยอยู่ในช่วงของการศึกษาข้อมูลเพื่อเตรียมความพร้อม และขยายความถี่ Wired Broadband เพิ่มขึ้นให้ครอบคลุมจากที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน ส่วนของ บมจ.ไทยคม หรือ THCOM นั้น ในไตรมาสที่ 2 บริษัทมีกำไร 190 ล้านบาท ขณะนี้บริษัทได้เตรียมที่จะยิงดาวเทียมไทยคม 6 ขึ้นสู่วงโคจรภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ซึ่้งได้ขายสัญญาเช่าช่องความถี่ไปแล้วกว่า 66% โดยดาวเทียมไทยคม 6 จะคลอบคลุมพื้่นที่ให้บริการทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิก ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เข้ามาเช่าช่องสัญญาณเพิ่มคือ กลุ่มลูกค้าตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย และแอฟริกา นอกจากนี้ บริษัทวางแผนที่จะยิงดาวไทยคม 7 ขึ้นสู่วงโคจรภายในกลางปีหน้า ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมที่จะย้ายช่องความถี่จากดาวเทียมไทยคม 5 บางส่วนไปยังดาวเทียมไทยคม 7 เพื่อรองรับช่องสัญญาณที่จะเพิ่มมากขึ้น โดยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ส่งดาวเทียมชั่วคราวสู่วงโคจรในระหว่างรอการใช้งาน ของดาวเทียมไทยคม 6 ที่กำหนดจะปล่อยสู่วงโคจรปลายปีนี้
ด้านบริษัท บมจ.ซีเอส ล็อกซอินโฟ หรือ CSL นั้น ในไตรมาสที่ 2 บริษัททำกำไรได้แล้วกว่า 114 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว ซึ่งเติบโตขึ้นถึง 25% จากธุรกิจ IDC, ICT และ Mobile Content โดยในครึ่งปีหลังจะเน้นการให้บริการเสริมด้านระบบ คลาวด์ คอมพิวติ้ง จากความต้องการของภาคธุรกิจที่เติบโตขึ้น และกลุ่มผู้ใช้ในชีวิตประจำวันที่เพิ่มมากขึ้น โดยยังคงรักษาฐานลูกค้ากลุ่ม ICT ที่ 40-60% และ Mobile Content ที่ 20% โดยจะมุ่งเน้นการให้บริการด้าน e-Book เพิ่มมากขึ้น จากแอปพลิเคชัน Ookbee ที่ทำรายได้ให้แก่บริษัทได้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี ในส่วนกำไรของอินทัชในไตรมาสที่ 2 นั้น บริษัทสามารถทำไรได้กว่า 3,676 ล้านบาท เทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็นสัดส่วนที่เติบโตขึ้นถึง 6% ส่วนหนึ่งมาจากการที่บริษัทไม่มีหนี้สินที่ค้างชำระ และมีเงินสดหมุนเวียนในบริษัทกว่า 2,000 ล้านบาท ในส่วนของทีวีดิจิตอล ที่บริษัทกำลังจะเตรียมเข้าประมูล และให้บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด เป็นผู้ดำเนินการนั้น น.ส.ทมยันตี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับทราบข้อมูลซึ่งขึ้นอยู่กับมติที่ประชุมของคณะกรรมการบริษัท