การประกาศผลกำไรสุทธิในปี 2555 ของ ของบริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ ไม่ได้เป็นแค่เพียงการประกาศถึงความสำเร็จของธุรกิจการให้บริการไอซีทีที่เริ่มเติบโตขึ้นเท่านั้น แต่ยังหมายถึงอนาคตของการดำเนินธุรกิจของซีเอสฯ ที่กำลังจะก้าวเข้าไปสู่การให้บริการแบบครบวงจรในการให้บริการทางด้านไอซีทีแบบผสมผสานเพิ่มขึ้น มุ่งสู่การให้บริการแอปพลิเคชันใหม่ๆ และลดการให้บริการด้านโทรคมนาคมลงเนื่องจากมองว่าในส่วนนี้นอกจากจะมีการเติบโตยากขึ้น แถมยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมที่เคยจ่ายอยู่แล้วเพิ่มขึ้นอีก ทำให้รายได้ส่วนนี้ต้องหดหายไป
ผลกำไรสุทธิ 390 ล้านบาท จากรายได้รวม 3,000 ล้านบาทของซีเอสฯ ในปีที่ผ่านมา นอกจากจะเกิดจากการเติบโตของธุรกิจการให้บริการไอซีทีแล้ว ยังมีการเติบโตของรายได้จากธุรกิจการให้บริการข้อมูลด้วยเสียงทางโทรศัพท์และบริการเสริมบนโทรศัพท์มือถือ รวมถึงการเติบโตของรายได้ค่าบริการสมัครสมาชิก (mobile subscription services) จากจำนวนฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการนำเสนอบริการที่หลากหลายมากขึ้น เช่น การให้บริการส่ง SMS ข่าวบันเทิง ข่าวกีฬา และการขยายบริการด้านคอลเซ็นเตอร์เพื่อการบริการลูกค้า ตลอดจนบริการสอบถามข้อมูล ด้านกิน ดื่ม และเที่ยว
อนันต์ แก้วร่วมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ มองว่าการเติบโตโดยรวมของธุรกิจที่นอกเหนือไปจากการให้บริการโทรคมนาคม มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับทิศทางของการก้าวสู่ธุรกิจการให้บริการไอซีทีนั้นเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เพราะลูกค้าที่มีอยู่ในปัจจุบันเริ่มใช้คลาวด์มากขึ้นในปีที่ผ่านมาเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนๆ ประกอบกับการใช้งานดาต้าเซ็นเตอร์มีแนวโน้มขยายตัวในทุกองค์กร ซึ่งจะก่อให้เกิดการใช้เวอร์ชวลแมชชีนมากขึ้นตามไปด้วย จึงเป็นทิศทางใหม่ที่น่าสนใจกว่า
***ถอดใจธุรกิจโทรคม เอือมค่าธรรมเนียมกสทช.
สำหรับธุรกิจโทรคมนาคมนั้น ในมุมของซีเอสฯ คือการเป็นไอเอสพีให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ดังนั้นการที่ กสทช.ประกาศเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (USO) 3.75% ไปแล้ว และกำลังจะประกาศเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตโทรคมนาคมเพิ่มอีก 2% นั้น จะทำให้คนในวงการโทรคมนาคมโดยเฉพาะไอเอสพีอยู่ยากขึ้น เนื่องจากในความเป็นจริงรายได้หลักของกสทช.ควรจะมาจากค่าธรรมเนียมจากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือและควรจะแยกค่าธรรมเนียมมือถือออกมาจากธุรกิจอื่นๆ แต่วันนี้ยังเน้นเรื่องความเท่าเทียม ยังเก็บค่าธรรมเนียมโทรศัพท์มือถือเท่าคนอื่นแล้วบอกว่าเป็นธรรม
'ซีเอส ล็อกซอินโฟ จึงต้องปรับกลยุทธ์ใหม่หันมาเน้นเรื่องการให้บริการด้านอื่นๆ มากขึ้น และนับจากนี้เรื่องของธุรกิจเทเลคอมจะเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่จะไม่ได้เน้นแล้ว เพราะนาทีนี้ใครยังมุ่งเน้นเทเลคอมก็จะโตยาก เราจะหลุดจากตรงนี้แล้ว ไม่มีภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอีกต่อไปแล้ว เพราะเทเลคอมเป็นแค่หนึ่งในสามของธุรกิจที่ทำอยู่ เราเลยขอลดการทำมาหากินกับกสทช.ลง หันมาขายบริการดีกว่า'
ดังนั้นการขยายการให้บริการทางด้านไอซีทีแบบผสมผสานและครบวงจรของบริษัทเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าองค์กรในปัจจุบัน จึงเป็นแนวโน้มใหม่ที่แม้จะเป็นการสร้างรายได้ที่ไม่ได้สูงนัก แต่หากมองแนวโน้มในปัจจุบันแล้วจะเห็นว่าลูกค้ามีการขยายไอทีในองค์กรมากขึ้น โดยเฉพาะการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยีที่สามารถนำไปใช้งานในหลายลักษณะมากขึ้น เมื่อเทียบกับ 3-4 ปีที่ผ่านมา แม้จะยังไม่เติบโตเท่าต่างประเทศแต่ก็มีทิศทางที่ดี ซีเอสฯ เลยมองว่าต้องมีการขยายดาต้าเซ็นเตอร์เพื่อรองรับกับความต้องการดังกล่าว
การดำเนินธุรกิจไอซีทีของซีเอสฯจะมุ่งเน้นการนำเสนอการบริหารจัดการแบบรวมศูนย์จุดเดียว (ONE STOP ICT SERVICE) ที่ตรงกับความต้องการผู้ใช้ภายใต้แนวคิดการหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ และ เทเลคอมรวมไปจนถึงบริการด้านคลาวด์ คอมพิวติ้ง ที่กำลังเติบโตมากขึ้น
***ทุ่ม 350 ล้านบาทขยายดาต้าเซ็นเตอร์
ซีเอสฯ ได้เตรียมลงทุนในการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่อีก 350 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันเหลือพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์สำหรับให้บริการประมาณ 25% โดยขณะนี้มีพื้นที่ตั้งอยู่ 2 แห่งคือที่ อาคาร แคท บางรัก และอาคารไซเบอร์ เวิลด์ ส่วนที่ตึกชินวัตร 1 นั้นไม่ใหญ่มากและให้บริการภายในบริษัทเท่านั้นจึงไม่นับเป็นหนึ่งแห่ง ส่วนที่จะสร้างใหม่เป็นเป็นแห่งที่ 3 ขนาดประมาณ 350 แร็ค 3,500 ตารางเมตร ตอนนี้กำลังเจรจาซื้อที่อยู่ คาดว่าจะอยู่ในเขตกรุงเทพฯ แต่ไม่เกินปริมณฑล ไม่เสี่ยงน้ำท่วม และจะสามารถให้บริการได้ภายในปีนี้
การสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่นี้จะเน้นลูกค้าใหม่ที่ใช้ลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตขององค์กรธุรกิจโดยเฉพาะ จากของเดิมที่ทำแล้วใช้ด้วยครึ่งหนึ่งอีกครึ่งหนึ่งให้ลูกค้าใช้ ส่วนดาต้าเซ็นเตอร์ที่ไซเบอร์เวิลด์ก็สามารถขยายได้ถ้ามีความต้องการและทำได้ในเวลาไม่นาน ซึ่งการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่นี้ยังเป็นการรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในระยะยาว ที่รัฐบาลได้มีการตั้งเป้าหมายไว้ว่าไทยจะเป็นฮับของทุกๆ อย่าง ซึ่งน่าจะรวมถึงไอซีทีด้วย
สำหรับการแข่งขันในธุรกิจนี้ ซีเอสฯไม่ได้มองว่าใครเป็นคู่แข่ง แต่มองการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกันมากกว่า เนื่องจากมั่นใจว่าไม่มีธุรกิจใดจะฝากดาต้าเซ็นเตอร์ไว้กับผู้ให้บริการรายใดรายหนึ่ง โดยจะเน้นการให้บริการในลักษณะเดียวกับ บูติกโฮเทล ขายน้อย แต่เน้นความเป็นพรีเมี่ยม เน้นการมีหลายโลเคชั่น ไม่เน้นใหญ่ แต่มีความปลอดภัยของตัวเอง เป็นพรีเมียมคอนโดมีเนียม ไม่ได้เป็นคอนโดที่สร้างเยอะๆ มีขนาดใหญ่แล้วขายไม่ออก มุ่งการให้บริการแบบโลกยุคใหม่ที่เน้น Just in Time Management
'เราไม่เคยบอกว่าเป็นที่หนึ่งในคอร์ปอเรต อินเทอร์เน็ต และไม่เคยคิดว่าแข่งกับเพื่อนในวงการ คิดแต่ว่าดูให้ดีที่สุดสำหรับลูกค้า ที่เหมาะสมกับลูกค้า โดยเฉพาะในปัจจุบันการจัดการด้านบริหารความเสี่ยง ก็ไม่เชื่อว่า ลูกค้าจะใช้ซีเอสฯคนเดียว แต่ลูกค้าจะมีที่อื่นๆ ด้วยเราเลยมองว่าลูกค้าสามารถเลือกใครก็ได้ แล้วทุกคนก็เป็น พาร์ทเนอร์เราไม่เคยมองว่าเราจะไปแย่งใคร'
***คาดจบปี 56 กำไรสูงขึ้น
อนันต์กล่าวว่าหากตลาดไอซีทีโตการใช้งานคลาวด์ก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย ประกอบกับการที่ภาครัฐได้มีการผลักดันแรงขึ้นเรื่องสมาร์ทไทยแลนด์ ซึ่งจะส่งผลให้ทุกอย่างจะเข้าสู่อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นภาษี ที่ดินเริ่มทำเรื่องโฉนด หรือแม้แต่เกษตรกร สิ่งเหล่านี้จะทำให้ข้อมูลมีจำนวนมากขึ้นและมีความจำเป็นต้องใช้ดาต้าเซ็นเตอร์ในการจัดการ ถึงแม้ธุรกิจนี้ไม่ได้ทำให้กำไรโตมากนัก แต่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้และสร้างกำไรได้ในอนาคต
ทั้งนี้รายได้ 3,000 ล้านบาท มาจาก 3 ส่วนธุรกิจหลัก โดยมีส่วนธุรกิจไอซีทีเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในส่วนนี้มีการเติบโตขึ้น 4-5 % ส่วนที่ 2 คือ ธุรกิจ Voice Info Services & Mobile Content Services ที่แม้จะทำรายได้ที่ไม่มากนักแต่สามารถสร้างกำไรได้มากกว่าโดยสามารถสร้างกำไรได้สูงถึง 240 ล้านบาท จากทั้งหมด 390 ล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งเป็นธุรกิจโฆษณาสมุดหน้าเหลือง ส่วนธุรกิจในเครือวัฏฏะ ไม่ได้ทำแล้ว'
สำหรับกลยุทธ์สำหรับธุรกิจที่เหลืออย่าง Voice Info Services & Mobile Content Services ในปีนี้จะมุ่งเน้นการให้บริการเสริมผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยการนำเสนอบริการที่หลายหลากและครบวงจรนอกเหนือจากการดูดวงมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น การให้บริการส่ง SMS ข่าวบันเทิง ข่าวกีฬา เพื่อให้ได้บริการที่ตรงใจผู้ใช้โทรศัพท์มือถือมากที่สุด
ส่วนธุรกิจโฆษณาสมุดหน้าเหลือง จะมุ่งเน้นการผสมผสานบริการโฆษณาสื่อสิ่งพิมพ์และออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ และอินเทอร์เน็ตอย่างครบวงจร เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มสำหรับการลงโฆษณาในสมุดหน้าเหลืองและเป็นการขยายฐานลูกค้าของบริษัทให้กว้างขึ้นด้วย ควบคู่ไปกับการพัฒนาบริการด้านการซื้อขาย อีคอมเมิร์ซ เพื่อเป็นบริการแบบครบวงจร ตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพื่อสร้างฐานรายได้แหล่งใหม่และเปิดโอกาสให้บริษัทสามารถนำเสนอรูปแบบการขายโฆษณาได้หลากหลายมากขึ้น
'ปีนี้คาดว่าสัดส่วนรายได้และกำไรจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว แต่กำไรน่าจะโตดีกว่ารายได้เพราะเราบริหารจัดการต้นทุนได้ดีกว่า และในปีนี้แม้สมาร์ทโฟนจะโตขึ้น แต่เราก็ไม่ได้เติบโตตามเพราะปัจจุบันฟีเจอร์โฟนยังมากอยู่ รวมถึงการใช้งานของผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไปไม่ถึงกับคำว่าสมาร์ท ไม่ได้ใช้งานทุกแอป เราต้องเพิ่มบริการอื่นๆ อาทิ วิดีโอแอป เข้ามาเสริมเพื่อสร้างความหลากหลาย ส่วนแผนที่จะทำเรื่องคลาวด์กับเอไอเอสนั้น คาดว่าจะเป็นในรูปแบบที่เอไอเอสจะเป็นคนออกโปรดักส์เพื่อขายคอนซูเมอร์ โดยมีซีเอสฯอยู่ข้างหลัง เหมือนกับเอไอเอสเปิดร้านอาหารแล้วซีเอสฯเป็นครัวให้เขามากกว่าที่จะร่วมมือด้านอื่น'