xs
xsm
sm
md
lg

สปป.ลาวติดใจตลาดระดมทุนไทย เข็นพันธบัตรล็อต 2 วงเงิน 3 พันล. ออกขาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 สปป.ลาว  ติดใจผลระดมทุนในตลาดไทย รุกออกพันธบัตรสุกลเงินบาทล็อต 2 อีก 3,000 ล้านบาท ระดมทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานประเทศ เปิดขายช่วง พ.ย.นี้ ตอบรับดีมานด์ที่ล้นกว่าเท่าตัวในครั้งแรก ที่ปรึกษา “ทวินไพน์ คอลซัลติ้ง” ระบุหากกระแสตอบรับฮอตไม่เลิก ปีหน้าเข็นออกอีกอย่างน้อยเท่าตัว ส่วนเหตุไร้เครดิตเรตติ้ง ยกกรณีคล้ายซามูไรบอนด์ ของไทย

นายอดิศร สิงห์สัจจะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทวินไพน์ คอลซัลติ้ง จำกัด เปิดเผยว่า กระทรวงการเงิน สาธารณรัฐประชาประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ได้แต่งตั้งให้บริษัทเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อออกพันธบัตรรัฐบาลลาว ในรูปสกุลเงินบาทในประเทศไทยรอบที่ 2 ด้วยมูลค่า 3,000 ล้านบาท มีระยะเวลาไถ่ถอน 3-5 ปี ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยให้อัตราดอกเบี้ยตอบแทนสำหรับช่วงอายุ 3 ปีที่ระดับ 4.5% ใกล้เคียงกับพันธบัตรล็อตแรก 1,500 ล้านบาท เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่ช่วง 5 ปี กำหนดอัตราดอกเบี้ยตอบแทนประมาณ 5.1%  ซึ่งยังไม่มีการสรุปจัดสรรสัดส่วนอายุพันธบัตรชัดเจน

“ตอนล็อตแรก 1,500 ล้านบาท ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากสถาบันของไทย มีทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทจดทะเบียนที่เข้าไปลงทุนใน สปป.ลาว อย่าง BANPU CK กลุ่มธนาคาร กองทุนรวม และประกันให้ความสนใจเข้าซื้อจนยอดล้นไปแตะ 4,000 ล้านบาท หรือ 2.7เท่า ถือว่าตลาดตอบรับด้วยดี จึงมีการออกพันธบัตรล็อตที่ 2 ออกมาอีกครั้ง”

ทั้งนี้ เนื่องจาก สปป.ลาว ต้องการพัฒนาประเทศขึ้นเป็นแบตเตอรี่เอเชีย ด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่จำนวนมากในประเทศ รวมทั้งต้องการกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศ ทำให้รัฐบาลมีความจำเป็นต้องระดมทุนเพื่อใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยที่ผ่านมา สปป.ลาว มีการกู้เงินต่างประเทศเข้ามาลงทุนในสัดส่วนเพียง 2% ของจีดีพี ผ่านการกู้เงินจากธนาคารพัฒนาเอเชีย และเวิลด์แบงก์ แต่เพื่อเตรียมพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และยกระบบระบบเงินของประเทศให้เป็นสากล จึงมีแนวคิดจะระดมทุนผ่านประเทศในภูมิภาคเดียวกัน โดยมุ่งเน้นมาที่ตลาดทุนในประเทศไทย เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพ

“ไทยเป็นอีกประเทศที่มีเม็ดเงินออมจำนวนมาก รัฐบาลสามารถขอกู้จากประชาชนมาเพื่อลงทุนได้ เช่นเดียวกับญี่ปุ่น ไม่เหมือนสหรัฐฯ ที่ต้องขอกู้ยืมจากต่างประเทศ แสดงถึงศักยภาพด้านการเงินของประเทศ โดยขณะนี้เราได้รับการตอบรับจากสถาบันต่างๆ ที่แสดงความสนใจในพันธบัตรของ สปป.ลาว ล็อตที่ 2 มาในระดับที่สูงแล้ว ในปีหน้าเพื่อตอบรับความต้องการของสถาบันในประเทศไทย เราอาจจะนำพันธบัตร สปป.ลาว มาออกเพิ่มเติมอีก โดยคาดว่าจะมากกว่ายอดรวมการออกพันธบัตรในปีนี้เท่าตัว หรือถึงระดับ 10,000 ล้านบาท”

สำหรับสาเหตุที่พันธบัตร สปป.ลาว ไม่มีการประเมินเรตติ้งจากบริษัทจัดอันดับ นายอดิศร กล่าวว่า  เนื่องจาก สปป.ลาวจำเป็นต้องเร่งระดมทุนเพื่อลงทุนในประเทศ หากให้บริษัทจัดอันดับเครดิตมาตรวจสอบจะใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 2 ปี ทำให้สูญเสียโอกาส ที่ผ่านมารัฐบาลไทยก็เคยออกพันธบัตรที่ไม่มีการจัดเรตติ้งเสนอขายให้แก่รัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งการออกพันธบัตรของ สปป.ลาว จะมีลักษณะเดียวกัน โดยตัวเลขเศรษฐกิจ และสถิติต่างๆ ที่นำเสนอมาจากเวิลด์แบงก์ และไอเอ็มเอฟ เป็นผู้ประเมินให้ในทุกปี ส่วนการการันตีความน่าเชื่อถือ อยากให้พิจารณาจากสถาบันไทยที่เข้าลงทุนในพัยธบัตรล็อตแรก ล้วนมีเชื่อเสียง และน่าเชื่อมั่นทั้งสิ้น

นอกจากนี้ ในอนาคต ทวินไพน์ คอลซัลติ้ง มีแผนจะนำพันธบัตรของประเทศเพื่อนบ้านอื่น เช่น พม่า เขมร อินโดนีเซีย มาเสนอขายในตลาดทุนไทยด้วยเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น