xs
xsm
sm
md
lg

TMB โชว์กำไร Q3 พุ่ง 67% รายได้เพิ่ม-พ้นสำรองพิเศษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ทหารไทย” แจ้งผลดำเนินงานไตรมาส 3 กำไร 1.87 พันล้าน เพิ่ม 67% หลังไม่ต้องกันสำรองพิเศษจากรายได้ดอกเบี้ย-มิใช่ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนเอ็นพีแอลลดเหลือ 3.8% จาก 4.1%

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (TMB)กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของธนาคารและบริษัทย่อยในไตรมาสที่ 3 ปี 2556 มีผลกำไรจากการดำเนินงานหลักก่อนสำรอง จำนวน 3,311 ล้านบาท และกำไรสุทธิ จำนวน 1,870 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 16% และ 67% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว และสำหรับงวด 9 เดือนของปี 2556 กำไรจากการดำเนินงานหลักก่อนสำรองมีจำนวน 10,448 ล้านบาท และกำไรสุทธิ จำนวน 3,938 ล้านบาท ซึ่งเพิ่ม 39% และ 36% ตามลำดับเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่แล้ว

โดยการเติบโตของกำไรเป็นผลจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของรายได้จากการดำเนินงานพร้อมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพของธนาคาร ขณะที่สัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL ratio) ลดลงเป็น 3.8% จาก 4.1%เมื่อสิ้นปีที่แล้ว

“จากการบริหารความเสี่ยงที่ดีขึ้น ทำให้คุณภาพสินเชื่อยังปรับดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หนี้เอ็นพีแอลของธนาคารลดลง 336 ล้านบาท นอกจากนี้ ธนาคารยังคงรักษาสภาพคล่องในระดับสูง สะท้อนจากอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (Loan to deposit ratio) ที่อยู่ที่ 92% ในไตรมาสนี้”

สำหรับในงวด 9 เดือนของปีนี้ ธนาคารมีการเติบโตของเงินฝากประมาณ 20,000 ล้านบาท หรือ 4.0% จากสิ้นปี 2555 ส่วนด้านสินเชื่อ ธนาคารสามารถขยายสินเชื่อได้ประมาณ 22,500 ล้านบาท หรือ 5.0% จากสิ้นปีที่แล้ว โดยเป็นผลจากขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งทำให้ผลตอบแทนของสินเชื่อรวมดีขึ้น และเมื่อประกอบกับการบริหารต้นทุนทางการเงินที่ดี ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยรับ (Net interest margin: NIM) เพิ่มขึ้นเป็น 3.0% จาก 2.7% และส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 19% จากปีที่แล้ว

นอกจากรายได้ดอกเบี้ยที่ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอแล้ว ธนาคารได้นำเสนอผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้าเพิ่มเติมบนฐานลูกค้าใหม่ซึ่งได้ไว้วางใจมาใช้บริการของธนาคาร ทำให้รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และค่าธรรมเนียมสุทธิเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และรายได้จากการดำเนินงานรวมเพิ่มขึ้น 20% ซึ่งเมื่อประกอบกับการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพจากการที่ธนาคารได้นำ Lean Six Sigma มาใช้กว่า 3 ปี ทำให้ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเพียง 6% ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ปรับตัวดีขึ้นโดยลดลงเป็น 50% จาก 57% และมีกำไรเพิ่มขึ้น 36 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน

และยังคงดำรงสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR) ภายใต้เกณฑ์ Basel III อยู่ที่ 16.8% ซึ่งเป็นกองทุนชั้นที่ 1 (Tier 1) ในสัดส่วน 11.2% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งกำหนดไว้ที่ 8.5% และ 6% ตามลำดับ

ทั้งนี้ ในไตรมาส 3 ธนาคารได้ตั้งสำรองหนี้สูญ หนี้สงสัยจะสูญ และขาดทุนจากการด้อยค่า จำนวน 1,195 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2556 ที่ธนาคารได้มีการตั้งสำรองพิเศษเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากวัฏจักรธุรกิจ การตั้งสำรองในไตรมาสนี้จึงลดลงกว่า 2,371 ล้านบาท หรือลดลงถึง 66.5%
กำลังโหลดความคิดเห็น