ผู้ว่าฯ ใหม่ กคช.ไฟแรง มอบนโยบายฝ่ายการตลาดเร่งทำแผนแก้ปัญหางานขายบ้านเอื้อที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมสั่งเตรียมความพร้อมงานแผนการตลาดรองรับงานขายโครงการที่อยู่อาศัยแพกเกจที่ 1 คาดตุลาคม สศช.อนุมัติแผนส่งต่อ ครม. เชื่อไม่เกินต้นปี 57 เดินหน้าขายโครงการแพกเกจ 1 ได้ทันที มั่นใจหลังเปิดขายยอดไม่ต่ำกว่า 90%
นางพรรรณสุภา ยุทธภัณฑ์บริภาร รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวว่า ได้รับมอบนโยบายจาก นายกฤษดา รักษากุล ผู้ว่าการ กคช. ให้ 2 ส่วน ประกอบด้วย การเร่งแก้ไขปัญหาการขายโครงการบ้านเอื้ออาทรที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว และการเร่งแก้ปัญหาอาคารที่ซื้อคืนมาจากสถาบันการเงิน เนื่องจากลูกค้าไม่ผ่อนชำระตามกำหนดเวลา รวมทั้งเตรียมความพร้อมขายโครงการต่างๆ ของปีงบประมาณ 2557 โดยมีโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ รวมทั้งที่ซื้อคืนมาทั้งสิ้นประมาณ 18,000 ยูนิต ทั้งนี้ ทีมการตลาดจะทำการเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านเอื้ออาทร และจะใช้วิธีการไดเรกต์เซลส์ หรือจัดจ้างบริษัทเอกชนขายก็จะพิจารณาเป็นกรณีไป โดยยกเลิกการจัดงานมหกรรมขายโครงการบ้านเอื้อฯ
นอกจากนี้ ยังมีนโยบายที่ได้รับมอบจากผู้ว่าการ กคช. ให้เตรียมความพร้อมด้านการตลาดของโครงการตามแผนพัฒนาที่อยู่อาศัย แพกเกจที่ 1 ซึ่งทางฝ่ายการตลาดและขายคาดว่า หากได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งฝ่ายการตลาดได้เตรียมแผนงานรองรับไว้แล้ว เพราะหากผ่านการเห็นชอบจาก สศช. แล้วเข้า ครม. และผ่านการอนุมัติแล้ว การขายจะต้องดำเนินการก่อนการก่อสร้างทันที
ทั้งนี้ หากโครงการตามแผนพัฒนาที่อยู่อาศัยแพกเกจที่ 1 ผ่านมติ ครม. ทางฝ่ายการตลาดจะประเดิมเปิดขายในครั้งแรก ซึ่งตั้งเป้าว่าจะมีขอยขายไม่น้อยกว่า 90% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายการจัดทำโครงการที่นำเสนอไป แต่ครั้งนี้จะเป็นปรากฏการณ์ของการเคหะแห่งชาติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นเรื่องการขายโครงการใหม่ที่ไม่ใช่บ้านเอื้ออาทร ซึ่งทีมงานการเคหะฯ มั่นใจว่าจะได้ยอดตามเป้าแน่นอน
“เราจะทำสถิติให้เห็นว่า โครงการที่การเคหะฯ ขออนุมัติจัดทำนั้นเป็นที่ต้องการของประชาชนเปิดมาเท่าไหร่เราขายได้หมด โดยเราจะให้ลูกค้าทำสัญญา และผ่อนดาวน์ได้เลย การเคหะแห่งชาติ จะต้องเรียกเอาความเชื่อมั่น คือ โครงการที่มีความพร้อมขายหมดแล้วก่อสร้างได้ทันที และเมื่อก่อสร้างเสร็จ การเคหะแห่งชาติจะจัดหาสถาบันการเงินมาสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ลูกค้าด้วยวิธีการโอนจำนอง”
สำหรับโครงการตามแผนพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดแพกเกจที่ 1 ที่คาดว่าจะทำการก่อสร้างก่อน หากได้รับการอนุมัติจาก ครม. คือ โครงการในกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย โครงการอาคารชุดลาดกระบัง จำนวน 2,600 ยูนิต, โครงการศรีนวมินทร์ (แฮปปี้แลนด์) จำนวน 72 หน่วย และอาคารแถว 18 หน่วย, โครงการที่บางขุนเทียน โดยโครงการดังกล่าวจะมีทั้งหมด 3 เฟสด้วย จำนวนรวม 800 กว่ายูนิต โดยจะแบ่งการขาย และก่อสร้างในเฟสแรกก่อน จำนวน 10 อาคาร จำนวน 558 ยูนิต โดยจะเริ่มต้นปี 2557 หลังจากนั้นก็ทยอยขายและก่อสร้าง, โครงการในปริมณฑล คือ โครงการที่ซอยวัดกู้ จะมีโครงการกรีนเพลส ปากเกร็ด จะเป็นอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 1,070 ยูนิต และโครงการวัดกู้ 3 ที่เป็นโครงการเคหะชุมชนด้วยอีกประมาณ 680 ยูนิต
ส่วนในโซนต่างจังหวัด ก็จะเริ่มที่จังหวัดที่มีความต้องการสูง เช่น ภูเก็ต, ชลบุรี และเชียงใหม่ ซึ่งแต่ละแห่งต้องมีการวางแผนการขายที่ชัดเจนแม่นยำ และขายได้แน่นอน เพราะฐานลูกค้าเดิมได้มีการแสดงเจตจำนงไว้แล้ว
