xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ กคช.คนใหม่โชว์วิสัยทัศน์เดินหน้าสนองนโยบายรัฐผุดบ้านตามแนวรถไฟฟ้า-ไฮสปีดเทรน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กฤษดา รักษากุล
“กฤษดา รักษากุล” ผู้ว่าฯ กคช.คนใหม่ โชว์วิสัยทัศน์เดินหน้าสนองนโยบายรัฐพัฒนาบ้านตามแนวรถไฟฟ้า 10 สาย-ไฮสปีดเทรน ประเดิม 2 โครงการแรก บริเวณ Depot บางไผ่ นนทบุรี และ Park & Ride บางปิ้ง สมุทรปราการ พร้อมเดินแผนพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ 1 ปี 57-60 จำนวน 96 โครงการ 49,769 หน่วย มูลค่า 46,607 ล้านบาท

นายกฤษดา รักษากุล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ภายหลังเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ว่า มีเป้าหมายการดำเนินงานเน้นภารกิจที่สามารถตอบสนองนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นหลัก พร้อมทั้งเดินหน้างานพัฒนาที่อยู่อาศัย และคุณภาพชีวิตของประชาชนตามภารกิจหลักขององค์กร

สำหรับภารกิจที่การเคหะแห่งชาติ เร่งตอบสนองนโยบายรัฐบาลในขณะนี้ ประกอบด้วย โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยโครงข่ายคมนาคมโครงสร้างพื้นฐาน หรือ TOD ซึ่งการเคหะแห่งชาติ ได้ร่วมมือกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยตามเส้นทางรถไฟฟ้ารองรับประชาชนบนที่ดินของการเคหะแห่งชาติ หรือ รฟม.ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า 10 สายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงการพัฒนาตามแนวไฮสปีดเทรนด้วย ปัจจุบัน ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการโครงการพัฒนาการที่อยู่อาศัยตามโครงข่ายคมนาคมโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีมติให้ร่วมกันจัดทำแผนเร่งด่วนโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) บริเวณ Depot บางไผ่ จังหวัดนนทบุรี และสายสีเขียว (แบริ่ง-บางปิ้ง) บริเวณ Park & Ride บางปิ้ง จังหวัดสมุทรปราการ

ทั้งนี้ การเคหะฯ ได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำการศึกษาวิจัย 2 โครงการ ได้แก่ ศึกษาแผนแม่บทการพัฒนาตามโครงการดังกล่าวข้างต้น คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2557 รวมทั้งศึกษาแผนเร่งด่วนโครงการบริเวณสถานีบางปิ้ง และสถานีบางไผ่ เช่น ขนาด รูปแบบโครงการ ระดับราคา ซึ่งการเคหะแห่งชาติ จะนำเสนอผลการศึกษาต่อคณะรัฐมนตรีภายในเดือนตุลาคม 2556 และจะผลักดันให้คณะรัฐมนตรีผ่านความเห็นชอบภายในสิ้นปี 2556 หากได้รับการอนุมัติการเคหะแห่งชาติพร้อมดำเนินงานทันที

อย่างไรก็ดี ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ TOD จะเน้นกลุ่มประชาชนที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง รายได้เฉลี่ย 20,000-40,000 บาท/เดือน สำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนในต่างจังหวัดรายได้ประมาณ 10,000-20,000 กว่าบาท/เดือน หรือระดับราคาบ้านเฉลี่ย 500,000-800,000 บาท ขนาดห้องชุดเริ่มต้นที่ 30 ตารางเมตร

ส่วนโครงการบ้านเอื้ออาทร การเคหะแห่งชาติ ได้รับมอบหมายจาก นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการ พม. ให้เร่งจัดสร้างโครงการที่ยังคงเหลือค้างอยู่ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งปัจจุบัน ดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว 293 โครงการ จำนวน 270,466 หน่วย อยู่ระหว่างก่อสร้าง 23 โครงการ จำนวน 11,090 หน่วย สำหรับยอดขายในปีงบประมาณ 2556 ในช่วง 10 เดือน (ตุลาคม 55-กรกฎาคม 56) มียอดขายบ้านเอื้ออาทรรวมทั้งสิ้น 38,245 หน่วย ในจำนวนนี้เข้า Post-finance แล้ว 18,637 หน่วย คิดเป็นวงเงินประมาณ 7,268 ล้านบาท ทำสัญญาเช่าซื้อ 1,722 หน่วย ทำสัญญาเช่า 682 หน่วย และทำสัญญาจะซื้อจะขาย 17,204 หน่วย ส่งมอบอาคารไปแล้ว 21,041 หน่วย คงเหลืออาคารว่าง 21,058 หน่วย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2556)

นอกเหนือจากโครงการที่สนองตอบนโยบายรัฐบาลแล้ว การเคหะฯ ยังต้องเร่งจัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ 1 จำนวน 96 โครงการ 49,769 หน่วย ตามแผนการดำเนินงานปี 2557-2560 ซึ่งได้นำเสนอรายละเอียดโครงการดังกล่าวให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณาแล้ว และกำลังปรับปรุงรายละเอียดโครงการตามคำแนะนำของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และ สศช. หากโครงการได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี การเคหะแห่งชาติ มีความพร้อมที่จะดำเนินการก่อสร้าง และเปิดขายโครงการทันที

สำหรับโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ 1 จำนวน 96 โครงการ 49,769 หน่วย มูลค่าโครงการ 46,607 ล้านบาท มูลค่าการลงทุน 34,198 ล้านบาท โดยเม็ดเงินลงทุนจะมาจากเงินรายได้การเคหะฯ 4,340 ล้านบาท เงินอุดหนุนจากรัฐบาล 3,867 ล้านบาท และเงินกู้ภายในประเทศประมาณ 25,935 ล้านบาท แบ่งในเขต กทม. ปริมณฑล 40 โครงการ 31,698 หน่วย และภูมิภาค 56 โครงการ 18,071 หน่วย ใช้ที่ดินทั้งหมด 2,748 ไร่ เริ่มพัฒนาในปี 2557 จำนวน 47 โครงการ 20,611 หน่วย, ปี 2558 จำนวน 40 โครงการ 22,951 หน่วย และปี 2559 จำนวน 9 โครงการ 6,207 หน่วย

ส่วนผลการดำเนินงานรอบ 10 เดือนของปีงบประมาณ 2556 มีกำไร 176 ล้านบาท ปัจจุบัน การเคหะฯ มีภาระหนี้ จำนวน 40,000 ล้านบาท โดยจะทยอยชำระให้หมด ซึ่งที่ผ่านมา ได้เร่งพัฒนาโครงการเพื่อหารายได้เข้าสู่การเคหะฯ โดยเตรียมพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวย่านร่มเกล้า ระดับราคา 4-5.7 ล้านบาท และโครงการบ้านประหยัดพลังงาน บนถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ราคา 3.7-4.2 ล้านบาท เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น