หุ้นไทยเปิดเด้งแรงกว่า 2% ทิศทางเดียวกับตลาดเอเชีย โบรกฯ เชื่อแนวโน้มยังดี แนะจับตาผลการประชุม “เฟด” และร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน “เอชเอสบีซี” มองพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแกร่ง เชื่อเงินลงทุนไหลกลับเข้ามาอีกครั้ง โดยปิดครึ่งวันเช้าบวก 37 จุด
ภาวะตลาดหุ้นไทย วันนี้ (16 ก.ย.) ดัชนีเปิดในแดนบวก โดยเมื่อเวลา 09.59 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,432.83 จุด เพิ่มขึ้น 31.75 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +2.27% มูลค่าการซื้อขาย 4,240.75 ล้านบาท
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซ๊ย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นในแดนบวกตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก
ทั้งนี้ ปัจจัยที่นักลงทุนยังต้องติดตาม คือ ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ จะมีการลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่ รวมถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ด้วย
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเก็งกำไรในระยะสั้น โดยประเมินแนวรับที่ 1,380 จุด และแนวต้านที่ 1,420 จุด
น.ส.ซู เซียน ลิม นักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ธนาคารเอชเอสบีซี มองว่า ที่ผ่านมา นักลงทุนวิตกกังวลเพราะตลาดมีปฏิกิริยามากเกินไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ และอนาคตเชื่อว่าเฟดจะปิดล็อกสภาพคล่อง แต่คาดว่าเฟดจะค่อยๆ ลดคิวอีลง การกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟดยังมีแต่อาจน้อยลง
ดังนั้น เมื่อตลาดคลายความกังวล ประเทศที่มีพื้นฐานดีอย่างไทยน่าจะได้รับผลดีจากเงินทุนที่ไหลกลับมาเข้ามาอีกครั้ง เชื่อว่าเงินลงทุนโดยตรง หรือเอฟดีไอจะเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิต และภาคบริการ โดยเฉพาะกลุ่มมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับ หรือลงทุนเพิ่มเติมส่วนที่มีเครือข่ายสายการผลิตรองรับอยู่แล้ว
เอชเอสบีซี ยังมองถึงการฟื้นตัวของการส่งออกไทย ดูได้จากตลาดสำคัญ เช่น จีน มีสัญญาณบางอย่างที่บอกว่าเริ่มมีเสถียรภาพ และในตลาดพัฒนามีสัญญาณฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป ทั้งญี่ปุ่น และยูโรโซนพ้นจากความถดถอย สหรัฐฯ เองปรับตัวดีขึ้น สินค้าไทยไตรมาส 4 ปีนี้ที่จะได้ประโยชน์จากสมมติฐานการฟื้นตัวปานกลางของเศรษฐกิจโลก คือ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และอาจเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วย เพราะการลงทุนธุรกิจในต่างประเทศเริ่มฟื้นความต้องการรถบรรทุกมากขึ้น
ทั้งนี้ เชื่อว่าสิงคโปร์อาจจะได้ประโยชน์มากสุดจากการฟื้นตัวของการส่งออก เพราะพึ่งพาส่งออก 100% ของจีดีพี การเติบโตของสิงคโปร์จะเพิ่มขึ้นในภาวะแวดล้อมต่างประเทศเริ่มดีขึ้น ไทย กับมาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ควรได้ประโยชน์เช่นกัน
โดยเมื่อเวลา 10.13 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,437.40 จุด เพิ่มขึ้น 36.32 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +2.59% มูลค่าการซื้อขาย 9,552.69 ล้านบาท
ล่าสุด ดัชนีปิดตลาดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,438.36 จุด เพิ่มขึ้น 37.28 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +2.66% มูลค่าการซื้อขาย 28,506.62 ล้านบาท