ราคาทองคำปรับขึ้นมาตลอดสองเดือนที่ผ่านมาจากจุดต่ำสุดที่ $1,180 เหรียญต่อออนซ์จนไปแตะจุดสูงสุดในรอบ 2 เดือนเศษที่ $1,433 ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำดีดขึ้นไปคือ การเปลี่ยนจากฝั่งขายตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนกรกฎาคมกลับกลายเป็นฝั่งซื้อสุทธิในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาของกองทุน SPDR Gold Trust ทำให้นักลงทุนในตลาดเริ่มมองว่าราคาทองคำได้ผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้ว ประกอบกับในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีประเด็นความไม่สงบในซีเรียมาหนุนให้เกิดผลบวกต่อราคาทองคำ
"แต่หากดูจากกราฟราคาในรูป จะเห็นว่า การเด้งขึ้นมาของราคาทองคำดูเหมือนจะเป็นแค่การเด้งขึ้นสั้นๆจากการลงใหญ่เท่านั้น ซึ่งเมื่อจบการเด้งขึ้นระยะสั้น เมื่อไหร่ โอกาสที่จะลงมาบริเวณ $1,180 อีกครั้งก็จะมีมาก ซึ่งหากมองกันด้วยปัจจัยระยะยาวจริงๆคงต้องยอมรับว่า มาตรการ QE ที่หนุนให้ราคาทองคำขึ้น มาตลอดปี 2008-2012 นั้นกำลังจะลดขนาดหรือยุติแล้ว แม้จะไม่ลดขนาดหรือยุติในการประชุม FOMC ที่จะเกิดขึ้นในวันที่17-18 กันยายนนี้ แต่สุดท้าย QE ก็ต้องยุติอยู่ดีไม่ช้าก็เร็ว เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานก็ดีขึ้นเรื่อยๆใกล้เป้าหมายของเฟดแล้ว คงต้องดูว่าจะมีวิกฤตอะไรเข้ามาอีกในอนาคตจนทำให้ธนาคารกลางสหรัฐยังต้องจำเป็นคงมาตรการ QE ไ ว้"
แล้วซีเรียล่ะจะหนักหนาแค่ไหน จะช่วยให้ราคาทองคำไม่ปรับลงมากหากมาตรการ QE ถูกลดได้หรือไม่ ..... แน่นอนว่าทองคำจะได้รับความสนใจเมื่อเกิดเหตุการณ์ทางการเมืองระดับโลก แต่ดูไปดูมาปัญหาซีเรียอาจจะไม่ได้ใหญ่อย่างที่ทุกคนกังวล ทุกประเทศไม่อยากก้าวไปสู่ความขัดแย้งที่ใหญ่จนถึงระดับสงครามโลกอยู่แล้วเพราะมีแต่เสียกับเสีย ยิ่งหากมติสหประชาชาติสามารถสรุปได้ว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธทางเคมีจริงคงจะลดแรงสนับสนุนซีเรียจากประเทศใหญ่ๆอย่างรัสเซียและจีนได้ ตรงนี้คงต้องติดตามข่าวกันอย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นปัญหาซีเรียมันหนุนราคาทองคำให้ขึ้นในระยะสั้นๆเท่านั้น เมื่อไหร่ที่ฝั่งสหรัฐโจมตีครั้งแรก หลังจากนั้นราคาทองคำคงจะขึ้นได้อีกไม่มากแล้วก็จะปรับตัวลงแรงเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามที่จะส่งผลกระทบกับราคาทองคำมากที่สุดคือ อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ หากมีการปรับขึ้นเมื่อไหร่ เตรียมสวด กุสลาธัมมา อกุสลาธัมมาให้ทองคำได้เลย เพราะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยคือการดูดปริมาณเงินดอลลาร์ในตลาดกลับไป สภาพคล่องน้อยลง โอกาสที่อัตราเงินเฟ้อจะปรับสูงขึ้นจะยิ่งยาก เมื่ออัตราเงินเฟ้อขึ้นยาก ต้นทุนการผลิตทองคำของเหมืองต่างๆก็อาจลดลงไปด้วย ปัจจัยที่จะช่วยหนุนราคาทองคำไม่ให้ลงแรงก็จะยิ่งน้อยลง
สรุป เตรียมใจไว้สักนิดหากราคาทองคำโลกจะปรับลงมาที่จุดต่ำสุดเดิม $1,180 เหรียญหรือต่ำกว่า สิ่งที่พอจะช่วยให้ราคาทองคำบ้านเราไม่ลงแรงตามได้ก็คือ ค่าเงินบาทที่ยังอยู่ในแนวโน้มอ่อนตัว การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนคงต้องวางแผนไว้ล่วงหน้าเลยว่าหากเกิดทองคำลงจะทำอย่างไร และถ้าหากผิดคาดกลับตัวเป็นขาขึ้นกลับไป $1,530
สัญญา หาญพัฒนกิจพาณิช
ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก
