อ่านใจคุณเบอนันเก้...บล.โกลเบล็ก

ราคาทองคำปรับขึ้นมาตลอดตั้งแต่ปี ค.ศ.2008-2011 จากการเก็งกำไรมาตรการ QE1-4 หรือนโยบายเชิงปริมาณที่ทางธนาคารกลางสหรัฐ โดยมีประธานคือคุณเบอนันกี้ หรือบางคนออกเสียงว่า เบอนันเก้ ซึ่งคุณเบอนันเก้กำลังจะหมดวาระในการนั่งเป็นประธานเฟดในช่วงต้นปี ค.ศ.2014 แต่ก่อนจะหมดวาระยังมีการประชุมของเฟดอีก 3 ครั้งได้แก่ช่วง 17-18 กันยายน 29-30 ตุลาคม และ 17-18 ธันวาคม ในปีนี้ ซึ่งนักเก็งกำไรคงต้องมาลุ้นกันว่าในการประชุมแต่ละครั้งจะมีอะไรเซอร์ไพร์สตลาดเงิน ตลาดทอง ตลาดหุ้นกันบ้างมั้ย
แน่นอนว่าประเด็นการลดขนาด QE หรือการยุติ QE ยังเป็นประเด็นหลักที่ตลาดสนใจ แต่หากมองย้อนกลับไปตั้งแต่เฟดประกาศมาตรกาศ QE ครั้งล่าสุดที่จะอัดฉีดเงินเข้าระบบอีกเดือนละ 85,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ก็มีเงื่อนไขออกมาอยู่แล้วว่าทางเฟดพร้อมที่จะพิจารณาลดขนาดหรือยุติ QE หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้นถึงระดับที่เฟดพอใจ ซึ่งตัวเลขที่ทางเฟดเน้นเป็นพิเศษก็จะเป็นตัวเลขว่างงาน ล่าสุดอยู่ราวๆ 7.4 เปอร์เซ็นต์ แต่เป้าหมายของเฟดคือระดับ 6.5 เปอร์เซ็นต์หรือต่ำกว่า ส่วนอีกอันคืออัตราเงินเฟ้อ ซึ่งอัตราเงินเฟ้อไม่ควรต่ำกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ แต่ปรากฏว่าระดับอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐต่ำกว่า 2 เปอร์เซ็นต์มาตลอดปีนี้เลย
อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐประจำเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาปรับขึ้นใกล้ระดับ 2 เปอร์เซ็นต์แล้ว ล่าสุดอยู่ที่ 1.97 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ในช่วงต้นที่ประกาศอัตราเงินเฟ้อออกมาราคาทองคำมีการปรับลงไปพอสมควรเนื่องจากตลาดเริ่มกลัวว่าแนวโน้มที่คุณเบอนันเก้และเฟดจะลดหรือยุติ QE มีมากขึ้น
ส่วนอัตราว่างงานหรือ Unemployment Rate ที่ประกาศที่ทุกเดือนก็ปรับลดลงมาแตะจุดต่ำสุดตั้งแต่ต้นปี ค.ศ.2009 ล่าสุดตัวเลขเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 7.4 เปอร์เซ็นต์ เป็นอีกตัวเลขนึงที่กดดันให้เฟดพิจารณาการเพิกถอนหรือลดขนาด QE
"ทั้งสองตัวเลขทำให้ตลาดเริ่มเชื่อว่าเฟดคงจะต้องประกาศลดขนาด QE ในการประชุม FOMC ครั้งต่อไปภายในเดือนกันยายนนี้ แล้วทำไมราคาทองคำถึงปรับขึ้นมาตลอดเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมาสวนกับตลาดหุ้นที่สวนลงจากความกังวลการลดขนาดมาตรการดังกล่าว สิ่งแรกก็คือ ราคาทองคำได้ปรับลงมาใกล้ระดับต้นทุนหน้าเหมืองมากจนเกินไป จึงมีแรงซื้อกลับ อย่างที่สอง คือ ดูจากตัวเลขซื้อทองคำหรือนำเข้าทองคำจาก World Gold Council จะเห็นว่าประเทศที่นำเข้าทองคำมากๆอย่างจีนและอินเดีย ยังเติบโตต่อแม้อินเดียจะมีมาตรการขึ้นภาษีการนำเข้าทองคำก็ตามที นอกจากนั้นยังได้ปัจจัยบวกจากสกุลเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ตลอดเกือบสองเดือนที่ผ่านมา และทางเทคนิคหรือกราฟก็เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในระยะสั้น จึงทำให้ราคาทองคำดีดกลับขึ้นมาบ้าง แต่ภายระยะยาวทองคำยังไม่มีปัจจัยบวกใหญ่ๆที่สำคัญมากพอจะทำให้ราคาทองคำโลกกลับไปเหนือ $1,520 เหรียญได้"
ระยะยาวราคาทองคำจะยังค่อยๆขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐไปเรื่อยๆ แต่ถึงสิ้นปีนี้ ราคาทองคำคงจะยังไม่ไปไหน แกว่งรอการตัดสินใจของทางเฟดว่าจะทำอย่างไรกับ QE ซึ่งในใจคุณเบอนันเก้เองคงไม่อยากเป็นคนรับหน้าที่ตัดสินใจครั้งนี้สักเท่าไหร่ เพราะหากตัดสินใจยุติหรือลด QE ไปแล้ว เศรษฐกิจสหรัฐกลับมาถดถอยอีกระลอก คุณเบอนันเก้อาจต้องกลายเป็นแพะรับบาปของวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นก็เป็นได้ จึงมีความเป็นไปได้ว่า คุณเบอนันเก้คงต้องพยายามพูดคุยกับประธานเฟดสาขาอื่นๆทั่วสหรัฐเพื่อที่จะยื้อการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้ให้ประธานเฟดคนใหม่ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งแทนเป็นคนตัดสินใจ ถึงตอนนั้นตลาดเองจะเป็นคนตอบรับสะท้อนผ่านราคาทองคำ

สัญญา หาญพัฒนกิจพาณิช
ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก