เมื่อสัปดาห์ก่อนยังคุยกันอยู่เลยว่าบอกได้ยากว่าจุดต่ำสุดของราคาทองคำโลกรอบนี้จะอยู่เท่าไหร่เพราะทองคำไม่มีงบการเงินมาให้เราตีมูลค่าที่แท้จริงของมัน แต่เราก็นิยมใช้การวิเคราะห์แนวโน้มในอนาคตด้วยกราฟ ซึ่งสัปดาห์ที่แล้วเรามองกันว่าถ้าหลุดต่ำกว่า $1,322 ก็มีโอกาสลงไปถึง $1,100-1,250 เหรียญ ในที่สุดมันก็ลงมาแล้วจริงๆ โดยล่าสุด ณ วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556 อยู่ที่ $1,240 โดยไปทำจุดต่ำสุดไว้ที่ $1,221 แต่หากเป็นราคาทองคำไทย ต้องยอมรับว่ายังไม่ถึงเป้าหมายที่เคยคุยกันว่าน่าจะต่ำกว่า 18,000 บาทต่อบาททอง ซึ่งในตลาดจริงต่ำสุดอยู่ที่ 18,100 บาท
แล้วมันจะลงต่อมั้ย?? แน่นอนว่าได้แต่คาดการณ์กันต่างๆนาๆ หากหันไปดูบทวิเคราะห์หรือการคาดการณ์ราคาทองคำของสถาบันการเงินต่างประเทศ ปรากฏว่ามีการปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่องและมหาศาลจนน่าตกใจ เช่น HSBC คาดว่าปี 2013 จะอยู่ที่ $1,435 และปี 2014 จะเหลือ $1,395 ส่วน Morgan Stanley ลดเป้าปี 2013 เหลือ $1,409 และปี 2014 เหลือ $1,313 ทาง Deutsche Bank มองปี 2013 อยู่ที่ $1,428 และ 2014 อยู่ที่ $1,388 และทาง Goldman Sachs ปรับลดเป้าปี 2013 เหลือ $1,300 และปี 2014 เหลือ $1,050
ปัจจัยลบมักตามมาหลังราคาปรับลดลงสักระยะ สิ่งนี้เกิดขึ้นในทุกตลาด แต่จะลงต่อได้มากหรือเปล่าลองหันมาดูเหตุผลที่สถาบันการเงินใหญ่ๆเค้าให้ไว้กันก็คือ เศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัว และคาดว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆคงจะหมดไปในอนาคตปีหน้าทุกคนเริ่มมองตรงกันแล้วว่าราคาทองคำกำลังกลับไปสู่ภาวะปกติที่เคยเกิดขึ้นก่อน Subprime ก็คือ ราคาทองคำจะสวนทางกันสกุลเงินดอลลาร์และตลาดหุ้น บทบาทในทองคำที่เป็นเสมือนสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อนั้นก็เริ่มจางหายไปเพราะอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 2 เปอร์เซ็นต์มานานกว่าปีครึ่ง ทำให้ความสนใจเริ่มลดน้อยถอยลง
"ถ้าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นจริงๆ การจะหยุด QE แบบชะงักงันคงทำให้เศรษฐกิจอาจเกิดการช็อคได้ เหมือนคนไข้ที่คุณหมอฉีดมอร์ฟีนจนตอนนี้คนไข้ติดมอร์ฟีนแล้ว จะหักดิบหยุดเลยนั้นคนไข้อาจลงแดงตายก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นที่ทางสหรัฐทำได้คงทยอยลด QE จนหยุดไปแบบไม่ทุรนทุรายเท่าไหร่ แต่คนที่จะเริ่มดึง QE ออกคือใคร คนที่ดึง QE ออกอาจจะกลายเป็นฆาตกรมือเปื้อนเลือดไปโดยไม่รู้ตัวเพราะทุกคนจะจดจำชื่อคนนั้นไปตลอดกาล ทำให้ผู้เขียนคาดว่า ตัวคุณเบอร์นันเก้เองที่กำลังจะหมดวาระในกลางปีหน้าแล้วนี้ อาจจะโยนเผือกร้อนๆให้ประธานธนาคารกลางสหรัฐคนต่อไปเป็นคนตัวสินใจ (อาจจะคล้ายๆวางยา) ส่วนคนใหม่มานั้นต้องตามมาแก้ปัญหาที่เศรษฐฏิจสหรัฐยังต้องการฟื้นตัวต่อเนื่องแต่การดึง QE ออกก็อาจจะกระทบต่อเศรษฐกิจและทำให้ตัวเองกลายเป็นผู้ร้ายไป แต่หากไม่ดึงออก ปัญหาเงินเฟ้อในอนาคตก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังอยู่ดี การตัดสินใจของประธานเฟดใหม่เป็นอย่างไรก็คงได้แต่เดากัน"
สิ่งที่เราควรทำคือ ถามตัวเองก่อนว่าจะซื้อทองคำเพราะอะไร ถ้าลงทุนระยะยาว ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อที่ดีที่สุดเหมือนเดิม การทยอยซื้อทองคำแท่งสะสมระยะยาว 5-10 ปี ยังเป็นสิ่งที่ดีในช่วงราคาแบบนี้ เพราะราคาปรับลงมาแล้วจากจุดสูงสุดกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ แต่ย้ำว่าเป็นการทยอยซื้อ อาจจะซื้อทีละ 20 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ตเมื่อราคาปรับลงทุกๆ $100 เหรียญก็ได้ แต่สำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้น เมื่อทองคำยังเป็นขาลงอยู่ ก็พยายามอย่าอยู่ฝั่งซื้อให้มากนัก ซื้อน้อยๆ ขายเร็วๆ และอย่าซื้อทีละเยอะๆ จะทำให้คุณอยู่รอดและไม่ติดดอยครับ
สัญญา หาญพัฒนกิจพาณิช
ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก