xs
xsm
sm
md
lg

เงินบาทช่วยชีวิตคนมีทอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตลาดทองคำเงียบเหงามาตลอดสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาแกว่งอยู่ในช่วง $1,365-$1,422 แม้ช่วงต้นเดือนมิถุนายนจะมีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรมา ก็ไม่ได้ทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวมากนักอย่างที่หลายนักวิชาการคาดการณ์ไว้ ซึ่งปัจจัยที่พอจะทำให้ราคาทองคำปรับตัวผันผวนอีกครั้ง ก็คงจะเป็นถ้อยคำแถลงของ FED ที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 18-19 มิถุนายนนี้ อาจจะทำให้ความตื่นเต้นกลับมายังตลาดทองคำอีกครั้ง

ราคาทองคำถูกกดดันด้วยปัจจัยการปรับมุมมองเป็นลบของเหล่าบรรดาสถาบันการเงินต่างๆ โดยมีการปรับเป้าหมายของราคาลดลง ซึ่งส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า สภาพเศรษฐกิจโดยรวมเริ่มดูดีขึ้น โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาที่ตัวเลขการจ้างงานเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับตั้งแต่ต้นปี เป็นสาเหตุให้นักลงทุนวิตกกังวลว่ามาตรการพยุงหรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆอาจจะเริ่มถูกถอดออกหรือลดลง ส่งผลให้ปริมาณเงินดอลลาร์สหรัฐในตลาดจะไม่เพิ่มมากขึ้น ก็จะทำให้โอกาสปัญหาเงินเฟ้อของตัวดอลลาร์ก็จะน้อยลง ทองคำจึงไม่น่าจะขึ้นได้สูงเหมือนช่วงปีสองปีก่อน

อย่างไรก็ตาม  ราคาทองคำโลกในระยะยาวยังสอดคล้องกับมูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์อยู่  ซึ่งสกุลเงินดอลลาร์ก็จะค่อยๆด้อยค่าในตัวมันเองตามอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐอยู่ต่ำกว่า 2 เปอร์เซ็นต์มาต่อเนื่อง 6 เดือนแล้ว หากย้อนไปดูปีที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นสูงๆอย่างปี ค.ศ.2011 ระดับอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะอยู่เกิน 2 เปอร์เซ็นต์จนเกือบถึง 4 เปอร์เซ็นต์โดยตลอด แต่หลังจากกลางปี 2012 อัตราเงินเฟ้อกลับมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด ทำให้การเก็งกำไรทองคำว่าสหรัฐจะเกิดปัญหาเรื่องเงินเฟ้อรุนแรงจากมาตรการ QE นั้นเริ่มหดหายไป

เงินทุนจึงไหลออกจากทองคำมาตั้งแต่กลางปี 2012 แต่มาออกแบบชัดเจนจริงๆก็ตั้งแต่ต้นปี 2013 ดูได้จากสถานะทองคำ SPDR ที่ลดจำนวนการถือทองคำลงอย่างมีนัยยะ แต่สำหรับนักลงทุนทองคำในไทยหลังสงกรานต์ที่ทองคำปรับตัวลงมาถือว่ายังมีโชคช่วยอยู่ เพราะค่าเงินบาทที่เคยแข็งค่าลงไปแตะ 28.50 บาทต่อดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังธนาคารแห่งประเทศไทยมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย จนกระทั่งเงินบาทกลับมาอยู่บริเวณ 31.15 บาทต่อดอลลาร์ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือนเมื่อวันพุธที่ 12 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา แต่พอมาวันนี้เงินบาทกลับมาอยู่ที่ 30.54 บาทต่อดอลลาร์อีกแล้ว ใช้ระยะเวลาแค่วันสองวันก็ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นราว 60 สตางค์ต่อเหรียญ ถือว่าผันผวนมาก อาจเป็นไปได้จากการปิดสถานะของผู้แทรกแซงค่าเงินในตลาด ซึ่งก่อนหน้าผู้เทรกแซงน่าจะมีการเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐก่อนหน้านี้เพื่อพยุงเงินบาทไม่ให้แข็งค่าเร็ว พอเงินบาทกลับมาอ่อนค่า ก็เลยทำการปิดสถานะที่เคยซื้อดอลลาร์ไว้ เงินบาทจึงแข็งค่าเร็วในระยะเวลาอันสั้นอย่างน่าตกใจ

แม้ราคาทองคำจะแกว่งตัวแคบๆในกรอบ  $1,365-1,422 เหรียญ แต่เงินบาทกลับแกว่งตัวอ่อนค่าอย่างมากในกรอบ 29.68-31.15 บาทต่อดอลลาร์ ราคาทองคำโลกที่ค่อยๆซึมลง แต่ราคาทองคำในบ้านเราไม่ได้ปรับลงนั่นก็เพราะเงินบาทที่อ่อนค่า ใครที่เก็งกำไรราคาทองคำช่วงนี้ เหมือนกำลังเก็งกำไรค่าเงินมากกว่าราคาทองคำเสียอีก ใครที่ไม่เคยสังเกตการณ์เคลื่อนไหวของค่าเงินบาทต่อดอลลาร์ คงต้องหันมาดูใส่ใจกับมันให้มากขึ้น เพราะมันมีผลกระทบต่อกำไรขาดทุนในการลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์สูงมากระดับหนึ่ง หากมองราคาทองคำโลกได้แม่นยำแต่ไม่สามารถอ่านแนวโน้มค่าเงินบาทได้ดี ผลตอบแทนที่ได้รับอาจไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ทางที่ดีควรศึกษาเรื่อง USD Futures หรือสัญญาล่วงหน้าซื้อขายดอลลาร์ด้วยจะช่วยในการลดความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนไปได้สูงทีเดียว

**สัญญา หาญพัฒนกิจพาณิช
ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก **
กำลังโหลดความคิดเห็น