หลังช่วงสงกราต์ราคาทองคำโลกปรับลงจาก $1,560 ไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 2 ปีที่ $1,321 ภายในระยะเวลา 3 วันทำการ ก่อนที่จะมีแรงดีดกลับขึ้นมา $1,485 ในช่วง 2 สัปดาห์ที่แล้ว แต่ในที่สุดราคาทองคำก็เริ่มย่อตัวลงอีกครั้ง ล่าสุดอยู่บริเวณ $1,370 และยังมีแนวโน้มปรับลงต่อไป
ในช่วงสงกรานต์ ราคาทองคำปรับลงแรงหลังเหล่าสถาบันการเงินออกมาปรับเป้าประมาณการณ์ราคาทองคำในปี ไม่ว่าจะเป็น Barclay, Credit Suisse, HSBC, Sociate Generale, และ Goldman Sach ตัวอย่างอย่าง HSBC ตั้งแต่ต้นปี 2013 มีการปรับลดเป้าราคาประเมินออกมา 2 ครั้งแล้ว แต่ที่ปรับลงสุดๆคงหนีไม่พ้น Credit Suisse ที่มีการปรับเป้าแล้ว 2 ครั้งเช่นกัน โดยคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะปรับลงไปเหลือ $1,100 ภายในปี 2013 นี้ โดยให้เหตุผลว่า ถึงแม้จะมีแรงซื้อจากธนาคารกลางเข้ามาบ้าง แต่ความน่าสนใจในทองคำจากภาคการลงทุนได้หดหายไปอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะจากอุปสงค์ในตัว ETF ทองคำ ซึ่งจะเป็นตัวกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลงต่อ
สภาวะการปรับเป้าหมายราคาแบบนี้มักเกิดขึ้นเป็นประจำ ในช่วงขาขึ้นก็เช่นกัน เพียงแต่ในช่วงขาขึ้น สภาวะที่เกิดขึ้นมันเกิดจากความโลภ สังเกตได้ว่า ในช่วงปี 2009-2011 มีการปรับเป้าราคาทองคำของเหล่าสถาบันการเงินเหล่านี้ขึ้นตลอด ตั้งแต่ไม่ถึง $1,000 จนปรับขึ้นไปกันถึง $2,000 กว่าเหรียญ แต่ในที่สุดก็ขึ้นไปไม่ถึง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ตรงกันข้าม ขาลงมักจะเกิดความกลัวเข้ามาครอบงำ ถามว่าราคาทองคำเป็นไปได้มั้ยที่จะปรับลงไปถึง $1,100 ภายในปีนี้ แน่นอนว่าทุกอย่างเป็นไปได้ แต่ด้วยปัจจัยต่างๆตอนนี้ยังไม่เอื้อให้ราคาทองคำจะปรับลงไปมากนัก
ปัจจัยเหล่านี้ได้แก่ 1. อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐยังต่ำอยู่ในระดับ 0-0.25% 2.มาตรการอัดฉีดยังคงดำรงอยู่ แม้จะเริ่มมีเสียงคัดค้านมากขึ้นให้หยุดมาตรการดังกล่าว 3.แรงซื้อจากธนาคารกลางต่างๆเพื่อเพิ่มสัดส่วนทุนสำรองที่เป็นทองคำแทนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ 4.สภาพเศรษฐกิจของประเทศผู้บริโภคทองคำมากอย่างจีนและอินเดียยังไม่เข้าสู่ภาวะซบเซาอย่างน่าวิตก ทำให้แรงซื้อทองคำจากนักลงทุนยังมีรออยู่เมื่อราคาย่อตัวลง
แต่หากราคาทองคำจะปรับตัวลงไป $1,100 เหรียญภายในปีนี้ น่าจะเกิดจากสาเหตุ 1.ธนาคารกลางสหรัฐออกมาสร้างความประหลาดใจด้วยการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายก่อนกำหนด ซึ่งก่อนหน้านี้เฟดยืนยันว่าจะไม่ปรับขึ้นภายในปีสองปีนี้ 2.ยกเลิกมาตรการ QE เร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ปัจจุบันเฟดยังไม่เคยพูดถึงการยกเลิก แต่เสียคัดค้านที่ออกมา กดดันให้เฟดยกเลิกภายปลายปีนี้ แต่หากเป็นกรณีอย่างหลัง ราคาทองคำก็คงจะปรับลงไม่แรงเท่ากรณีแรก เพราะตลาดเริ่มรับรู้ความเป็นไปได้ในการยกเลิก QE บ้างแล้ว เช่นเดียวกับการปรับเป้าประมาณการณ์ในปี 2013 ของสถาบันการเงินก็รวมประเด็นนี้เข้าไปแล้ว
เป้าหมายราคาทองคำในปีนี้ของผู้เขียน คาดว่าจะซึมลงสลับเด้งขึ้นบ้าง แต่เป็นการค่อยๆซึมลง ราคาเป้าหมายจะอยู่ $1,320 ในช่วงปลายปี แต่อาจมีการลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ $1,250 โดยคาดกรอบการเคลื่อนไหวภายในปีนี้ที่ $1,250-1,540 โดยราคาทองคำในบ้านเราอาจได้รับผลกระทบจากเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์มากด้วยเช่นกัน
ไม่ว่าใครจะปรับเป้าหมายขึ้นหรือลงอย่างไร นักลงทุนควรจะมีเป้าหมายและกลยุทธ์ในการลงทุนทองคำของตัวเองให้ชัดเจน ว่าคุณจะซื้อขายทองคำด้วยเหตุผลอะไร ระยะเวลาการลงทุนเท่าไหร่ เงินทุนที่แบ่งมาในลงทุนในทองคำสัดส่วนเท่าไหร่ อย่าลงทุนแบบไม่ได้วางแผน อย่าทยอยซื้อไปเรื่อยๆจนหน้าตักไปจมอยู่กับทองคำตัวเดียว มันอาจทำให้คุณพลาดโอกาสในการลงทุนในสินทรัพย์ตัวอื่นๆได้ถ้าคุณหมกมุ่นอยู่กับตัวใดตัวหนึ่งอย่างเดียว
**สัญญา หาญพัฒนกิจพาณิช
ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก **