นายกสมาคมค้าทองคำ ชี้แนวโน้มราคาทองคำในปีนี้ยังมีความผันผวน แต่เชื่อโอกาสที่ราคาทองคำจะลดลงมาถึง 1,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (ประมาณ 17,000 บาท) ภายในปีนี้เป็นไปได้ยาก
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ และประธานห้างทอง จินฮั่วเฮง กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำในปีนี้ยังมีความผันผวน แต่เชื่อว่าราคาทองคำจะไม่ปรับลดลงต่ำกว่า 1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 18,000 บาท โอกาสที่ราคาทองคำจะลดลงมาถึง 1,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 17,000 บาท ภายในปีนี้เป็นไปได้ยาก
ขณะที่การคาดการณ์ราคาทองคำในประเทศค่อนข้างยากเช่นกัน เนื่องจากเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวน โดยปลายปี 2555 เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาแข็งค่าถึง 28.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหากเงินบาทแข็งค่าขึ้นทุก 1 บาท จะมีผลให้ราคาทองถูกลงอีก 700-800 บาท แต่ในช่วงนี้เงินบาทอ่อนค่าอยู่ที่ 29.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ราคาทองคำในประเทศปรับขึ้นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังมีทิศทางขาลงโดยเฉพาะในปีหน้า เนื่องจากมีแนวโน้มที่สหรัฐฯ อาจจะเลิกใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือคิวอี หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีทิศทางดีขึ้น นักลงทุนจะมีการย้ายการลงทุนไปที่เงินดอลลาร์สหรัฐได้ ดังนั้น นักลงทุนต้องระมัดระวัง และอย่าลงทุนเกินตัว
ด้านสมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาขายทองคำ 18 พ.ค. ปรับลดลง 200 บาท ทองคำแท่ง ขายออก 19,350 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 19,750 บาท
น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทวายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า ราคาทองคำยังมีแนวโน้มในทิศทางขาลง โดยหากหลุดแนวรับที่ 1,350 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองมีโอกาสปรับลดลงมาที่แนวรับ 1,280 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับราคาที่ต่ำสุดในช่วงสงกรานต์ และเป็นแนวรับที่สำคัญ แต่หากรับไม่อยู่ราคาทองจะหดตัวลงมาที่ 1,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 17,000 บาทได้ แต่เชื่อว่าในระยะสั้นนี้จะยังไม่เห็นราคาดังกล่าว เนื่องจากราคาทองคงไม่ปรับลดต่ำกว่าต้นทุนที่ประมาณ 1,100-1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ประกอบกับเงินบาทอ่อนค่าลง ส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในทองคำปีนี้ต้องเพิ่มความระมัดระวัง โดยให้ติดตาม 4 ปัจจัยที่จะกระทบต่อราคาทองคำ คือ 1.ความคืบหน้าเกี่ยวกับประเด็นเพดานหนี้ของสหรัฐฯ 2.ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต่อสภาคองเกรส เกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือคิวอี ว่าจะลดวงเงินในสินทรัพย์หรือไม่ 3.ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และยุโรป และ 4.ท่าทีของรัฐบาลในการดูแลปัญหาเงินบาท
นายสุวรรณ วลัยเสถียร ประธานชมรมคนออมเงิน กล่าวว่า ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงขาลงอีกอย่างน้อย 2-4 ปี ในลักษณะตกท้องช้าง เพราะเชื่อว่ายังมีแรงขายทองคำออกมาอย่างต่อเนื่อง จากนักลงทุนที่ซื้อทองคำสะสมตั้งแต่ราคาประมาณ 6,000 บาท ซึ่งสามารถขายทำกำไรได้ทุกระดับราคา ดังนั้น นักลงทุนที่ติดทองคำในราคาสูงควรขายตัดขาดทุนประมาณร้อยละ 30 ของพอร์ต และเปลี่ยนไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นแทน