หลังการแถลงของประธานเฟด คุณเบอร์นันเก้ ในค่ำวันที่ 19 มิถุนายน ในที่สุด QE ก็ยังยืดต่ออายุไปอีกสักพัก แต่ก็ไม่ได้ส่งผลบวกต่อราคาทองคำ และตลาดหุ้นเลย เพราะหลังจากการเริ่มแถลงได้ไม่นาน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่บวกและทองคำที่ยังปรับตัวบวก ก็ร่วงมาติดลบกันระนาว ถึงจะต่ออายุ QE ไปอีกสักระยะ แต่ตัวเลขการคาดการณ์ของทางเฟด บ่งบอกว่า QE อาจจะสิ้นสุดกันในช่วงกลางปีถึงสิ้นปีหน้า ซึ่งเฟดคาดว่า ในเดือนมิถุนายนปี 2014 GDP ของสหรัฐฯ น่าจะเติบโตขึ้น 3-3.50 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งตัวเลขการจ้างงานน่าจะลดเหลืออยู่ในระดับ 6.50-6.80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ นายเบอร์นันเก้ เคยประกาศก่อนหน้าแล้วว่า QE และการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับต่ำนั้นอาจจะสิ้นสุดเมื่อตัวเลขว่างงานเหลือแค่ 6.50 เปอร์เซ็นต์ลงไป ซึ่งเป็นตัวเลขที่ก่อนเกิดเรื่องซับไพรม์
ทำให้แม้ตลาดจะมีข่าวดีว่า QE จะยืดไปถึงกลางปีหน้า แต่ราคาเริ่มรับรู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเพราะความกังวลที่เฟดจะเริ่มทยอยลดขนาด QE จากที่ใช้เดือนละ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์นั้นจะค่อยๆ ปรับลดลงเรื่อยๆ และที่สำคัญคือ อัตราดอกเบี้ยที่หากปรับขึ้นเมื่อไหร่ ก็แสดงว่าจะมีการทยอยปรับขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้น เพื่อดึงสภาพคล่องที่อัดฉีดเข้าไปก่อนหน้าเพื่อป้องกันปัญหาเงินเฟ้อในอนาคต แต่การปรับขึ้นเร็วแค่ไหนก็คงต้องหันไปดูอัตราเงินเฟ้อว่าสูงหรือไม่
**ที่น่าแปลงใจคือ เฟดมั่นใจว่า GDP และตัวเลขว่างงานจะปรับดีขึ้น แต่ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของที่เฟดแถลงกลับยังอยู่ต่ำกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ ดูๆ มันยังขัดแย้งนิดนึงว่าถ้าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวเลขเงินเฟ้อไม่น่าต่ำขนาด ซึ่งอัตราเงินเฟ้อนี่แหละที่พอจะเป็นตัวช่วยพยุงทองโลกให้ไม่ลงยวบเร็ว ถ้าเศรษฐกิจอเมริกาฟื้นจริง เงินทุนอาจไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงก่อนที่จะมาเลือกเข้าทองคำ แต่ด้วยเศรษฐกิจที่ดีขึ้น อัตราเงินเฟ้อก็มีโอกาสเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งทองคำจะถูกนึกถึง หลังจากนั้นเป็นยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อย่างชัดเจน**
ทองคำไม่มีงบการเงินให้อ่าน ไม่มีใครสามารถคำนวณได้ว่าหลังเฟดถอด QE ราคาทองคำเหมาะสมควรจะอยู่เท่าไหร่ ซึ่งอาจมีบางคนคาดเดาจากราคาต้นทุนหน้าเหมืองทองคำว่าอยู่ที่ $900-1,250 ทำให้ราคาตลาดโลกไม่ควรต่ำกว่า $1,250 แต่จะเตือนไว้ว่าในบางปีก่อนหน้าขาขึ้นรอบใหญ่ของทองคำที่ผ่านมา ราคาทองคำในตลาดโลกก็เคยขายต่ำกว่าราคาหน้าเหมืองเหมือนกัน
เพราะไม่มีวิธี หรือทฤษฎีที่ใช้วิเคราะห์ราคาทองคำได้แม่นยำ ทำให้การวิเคราะห์ด้วยกราฟราคายังเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ใช้ ซึ่งหลังจากราคาหลุดต่ำกว่า $1,365 แล้ว โอกาสที่จะลงไปทดสอบ $1,322 จุดต่ำสุดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาสูง แต่หากหลุดต่ำกว่านั้น ก็คงจะลงไปแถว $1,250 แต่อย่าลืมว่ามันเป็นขาลงของทองคำเต็มตัวแล้ว การที่จะลงไปต่ำกว่า $1,100 ก็เป็นไปได้เช่นกัน
**สัญญา หาญพัฒนกิจพาณิช
ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก **
