โบรกฯ มองแนวโน้มหุ้นไทยปรับตัวในแดนลบตามทิศทางตลาดต่างประเทศ หลังเฟดส่งสัญญาณเตรียมชะลอ QE ปลายปีนี้ และยกเลิกปีหน้า ด้านหุ้นไทยเปิดตลาดดิ่งลงแรงกว่า 43 จุด หนักกว่าตลาดในภูมิภาคเอเชีย
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) มองว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียที่ต่างอยู่ในแดนลบกันทั่วหน้า ตามทิศทางดาวโจนส์ปรับตัวลงกว่า 200 จุด เมื่อคืนที่ผ่านมา
หลังจากที่ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกมาในคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม และประธานเฟดยังออกมากล่าวว่า คงจะต้องมีการชะลอการซื้อสินทรัพย์ในปีนี้ และอาจจะยุติมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ในปีหน้า หากเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีการฟื้นตัวขึ้นอย่างที่คาดไว้ ดังนั้น จึงส่งผลให้ตลาดในเอเชียคงจะมีการปรับฐานอีกรอบ
ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิ 225 ตลาดหุ้นโตเกียว เปิดตลาดดิ่งลงทันที 143.37 จุด หรือ 1.08% มาอยู่ที่ 13,101.85 จุด ขณะที่ฮั่งเสง ลบไป 318.09 จุด หรือ 1.52% อยู่ที่ 20,668.80 จุด และเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ลดลงไป 15.82 จุด หรือ 0.74% อยู่ที่ 2,127.63 จุด นับเป็นทิศทางลบต่อเนื่องมาจากตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ซึ่งแรงเทขายของนักลงทุนส่งผลให้ดัชนีอุตสาหกรรมดาวน์โจนส์ ปิดตลาดร่วงลงไปถึง 206.04 จุด เมื่อคืนที่ผ่านมา หรือ 1.35% ไปปิดที่ 15,112.19 จุด
สำหรับปัจจัยที่จะต้องติดตามดูต่อไป เป็นเรื่องการปรับการคาดการณ์กำไรของบรรดานักวิเคราะห์ฯ ที่น่าจะออกมาในเดือนหน้า การปรับเป้าหมายดัชนี SET ของโบรกฯ ต่างๆ พร้อมจับตาความเคลื่อนไหว Fund Flow และสถานการณ์การเมือง
ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวดัชนีวันนี้คาดแนวรับอยู่ที่ 1,420 จุด ถ้าหลุดก็ให้รอซื้อที่ระดับ 1,350 จุด หรือต่ำกว่านี้ ส่วนแนวต้านคงไม่ต้องดูแล้วในตอนนี้
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทย วันนี้ (20 มิ.ย.) ดัชนีเปิดตลาดปรับลงลงค่อนข้างแรง โดยเมื่อเวลา 10.00 น. ดัชนีปรับลงไปที่ระดับ 1,394.68 จุด ลดลง 43.02 หรือเปลี่ยนแปลง -2.99% มูลค่าการซื้อขาย 4,779.94 ล้านบาท หนักกว่าตลาดในภูมิภาคเอเชีย