บาทอ่อนค่าช่วยพยุงราคาทองคำในประเทศ หลังในต่างแดนร่วงหนักกว่า 88 เหรียญ จากความชัดเจนการทยอยถอนมาตรการ QE ของธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดระยะสั้นอาจลงถึง 18,800 บาท ส่วนราคาทองคำต่างประเทศอาจได้เห็น 1,250 เหรียญ/ออนซ์ จาก 1,288 เหรียญ โบรกฯ มองแรงเทขายมาจากอารมณ์มากกว่าปัจจัยพื้นฐาน เหตุนักลงทุนไม่เชื่อมั่นเพราะเห็นกองทุน-รายใหญ่เทขายต่อเนื่อง
นักวิเคราะห์ บริษัท ออสสิริส ฟิวเจอร์ส จำกัด ให้ความเห็นถึงการปรับตัวลดลงของราคาทองคำโลกกว่า 88 เหรียญ/ออนซ์ ว่า เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์นั่นคือ เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดวงเงินในมาตรการ QE3 ภายในปีนี้ และจะยุติในปี2557 ทำให้เกิดแรงขายทองคำออกมา
ทั้งนี้ สำหรับตลาดทองคำในประเทศไทย มองว่า การเคลื่อนไหว หรือการปรับตัวลดลงจะไม่รุนแรงมากเท่าใดในระยะสั้นช่วง 1 สัปดาห์นี้ เนื่องจากสถานการณ์ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่อง นับตั้งแต่คณะกรรมการนโยบายการเงินปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จะเปรียบเหมือนแรงถ่วงดุลให้ราคาทองคำในประเทศไทยไม่ลดลงอย่างรุนแรง เช่นต่างประเทศ โดยประเมินว่า ในระยะสั้นการปรับลงของราคาทองคำไทยมากสุดน่าจะประมาณ 18,800 บาท จาก ณ ขณะนี้ (เช้า 21 มิ.ย.) ที่ระดับ 19,150 บาท
“เม็ดเงินที่ไหลออกไปในทุกตลาดส่งผลให้ค่าบาทอ่อนค่าลง ทำให้การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในประเทศปรับลดลงไม่มาก หรือรุนแรงเท่าต่างประเทศ”
อย่างไรก็ตาม ในแนวโน้มระยะกลาง-ยาว ราคาทองคำในประเทศยังมีโอกาสปรับตัวลงได้อีก โดยอาจได้เห็นในระดับ 17,000 บาท ซึ่งปัจจัยที่จะมีผลกดดันราคายังมาจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเฉพาะเป้าการลดอัตราว่างงานให้เหลือ 6.5%
“มันมีส่วนต่างในอัตราว่างงานตอนนี้ 7.6% เป้าคือ 6.5% มีส่วนต่าง 1.1% เราต้องจับตาดูว่าตัวเลขนี้จะลดได้จริงหรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นจริงหมายความว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดีขึ้น นั่นหมายถึงการประชุมเฟดครั้งหน้า 17-18 ก.ย. เราอาจจะได้เห็นการเริ่มลดวงเงินในการเข้าซื้อพันธบัตร ถ้าเกิดขึ้นจริงย่อมมีผลต่อราคาทองคำทั้งในต่างประเทศ และในเมืองไทยลงไปด้วย”
นักวิเคราะห์ บริษัท ออสสิริส ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ราคาทองคำในตอนนี้เป็นไปในลักษณะใช้อารมณ์มากกว่าปัจจัยพื้นฐาน เพราะนอกเหนือจากปัจจัยของสหรัฐฯ แล้ว กองทุน SPDR ที่ถือทองคำมากที่สุดในโลก ก็ปรับลดพอร์ตทองคำลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนทั่วไปไม่มั่นใจต่อราคาทองคำที่ถืออยู่ในปัจจุบัน จนเกิดแรงเทขายออกมามากเกินจริง
“เม็ดเงินจำนวนมากในตอนนี้ไหลออกจากตลาดทองคำ ตลาดหุ้น มุ่งไปที่ตราสารหนี้สหรัฐฯ ไปที่มันนี่มาร์เกต กองทุน SPDR ยังขายต่อเนื่องนักลงทุนรายย่อยจึงวิตก พากันขายทองคำออกมาตามรายใหญ่ ตอนนี้ราคาอยู่ที่ 1,288 เหรียญ/ออนซ์ ก็มีโอกาสลงไปถึง 1,250-1,220 เหรียญ/ออนซ์”
ส่วนระยะยาว นักลงทุนต้องติดตามผลการประชุมเฟดครั้งหน้าที่จะมีผลในเรื่องการเริ่มปรับลดวงเงิน หรือต้องติดตามในช่วงต้นปี 2557 เนื่องจากจะมีการแต่งตั้งประธานเฟดคนใหม่ ซึ่งต้องจับตาดูว่าประธานเฟดคนใหม่จะเดินหน้านโยบายเดิมต่อไปหรือไม่
