xs
xsm
sm
md
lg

ราคาทองคำกับความกังวลในซีเรีย...บล.โกลเบล็ก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สัญญา หาญพัฒนกิจพาณิช ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก
ราคาทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมาทำจุดสูงสุดในรอบ 75 วัน ที่ระดับ $1,433 เหรียญต่อออนซ์ก่อนจะถูกแรงขายทำกำไรลงมาอยู่บริเวณ $1,393 เหรียญในช่วงเวลา 16.30 น. ของวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยบวกจากความตึงเครียดในประเทศซีเรีย ว่าจะเกิดสงครามระหว่างกลุ่มประเทศตะวันตกกับประเทศซีเรียหรือไม่ หลังมีคำขู่จากฟากสหรัฐที่พร้อมจะตอบโต้หากรัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีจริง แต่หลังจากสภาอังกฤษมีมติจะไม่ส่งทหารไปร่วมบุกซีเรีย ราคาทองคำก็เริ่มปรับลง นอกจากนั้นกองทุนทองคำ SPDR สัปดาห์ที่ผ่านมายังมีสุทธิเป็นซื้อทองคำเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกันหลังจากขายมากว่าสองเดือนติด ประกอบกับข่าวลือว่าประเทศรัสเซียมีการตุนซื้อทองคำเพิ่มในปริมาณมากเช่นกัน

แนวโน้มราคาทองคำทางเทคนิค ในระยะกลางยังเป็นขาลง โดยมีแนวต้านบริเวณ $1,450 เหรียญในระยะกลาง แต่แนวต้านใหญ่ในปีจะอยู่บริเวณ $1,520 แต่ในระยะสั้นแนวโน้มอยู่ในกรอบขาขึ้นระหว่าง $1,340-$1,445 ความตึงเครียดในซีเรียยังจะเป็นตัวกดดันให้ราคาทองคำในระยะสั้นปรับตัวลงได้ไม่มาก จึงเหมาะกับการเก็งกำไรระยะสั้น แต่ในระยะกลางยังถูกกดันด้วยแนวโน้มที่จะลดขนาด QE
 
"ประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ อยู่ที่ความชัดเจนในการบุกประเทศซีเรียของสหรัฐ ความวิตกกังวลแนวโน้มการลดมาตรการ QE ของสหรัฐตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐประจำสัปดาห์ ค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่เงินบาทยังอยู่ในแนวโน้มแข็งค่าคำแนะนำสำหรับคนที่ขายไปแล้วบริเวณ $1,420-1,425 ตามคำแนะนำสัปดาห์ก่อน ให้รอซื้อคืนบริเวณต่ำกว่า $1,390 เหรียญเพื่อรอขายอีกครั้งบริเวณ $1,420 ขึ้นไป แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาว แนะนำให้รอจังหวะซื้อราคาต่ำกว่า $1,350 เหรียญ"

    
ทั้งหมดคือแนวโน้มราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ทุกคนกำลังจับตามองว่า ผู้คนล้มตายนั้นมาจากอาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรียอย่างที่สหรัฐกล่าวอ้างหรือไม่ แต่ก็มีบางมุมมองที่ไม่เห็นด้วยว่าสหรัฐจะตอบโต้ซีเรียทางทหารหลังยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ารัฐบาลซีเรียเป็นผู้ใช้อาวุธเคมีจริงหรือไม่ ทำให้ประเทศอย่างรัสเซียคู่ปรับตลอดกาลของสหรัฐเริ่มมีท่าทีว่าจะอยู่ฝ่ายซีเรียด้วยซ้ำหากสหรัฐปฏิบัติการทางทหารจริง ความตึงเครียดเล็กๆจะกลายเป็นความตึงเครียดใหญ่ทันทีหากกลายเป็นมวยระดับเฮวี่เวทอย่างสหรัฐและรัสเซียมาชนกัน

    
ความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเศรษฐกิจสหรัฐก็ยังไม่ได้ฟื้นเต็มตัว ทำไมต้องยกพลไปก่อสงครามกับชาวบ้านเค้าด้วย มุมมองก็ออกมาหลายหลาย บ้างก็บอกสหรัฐเป็นเหมือนพี่ใหญ่ของโลกต้องดูแลความเรียบร้อย บางคนก็มองว่าสหรัฐมักจะเลือกบุกประเทศที่มีศักยภาพด้านพลังงาน หรือบางส่วนก็มองว่า ผู้นำสหรัฐมักจะสร้างวิกฤตความไม่สงบนอกประเทศเพื่อสร้างความสามัคคีในประเทศและเป็นคะแนนด้านบวกกับรัฐบาล ต่างคนก็ต่างมุมมองกันไป

    
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นย่อมสะท้อนต่อนักลงทุนทั่วโลกอยู่แล้ว เพราะธรรมชาติของเงินมักจะไหลไปในที่ที่ให้ผลตอบแทนสูงหรือที่ที่ปลอดภัย ต้องบอกว่าไม่ใช่ธรรมชาติของเงิน แต่เป็นธรรมชาติของเจ้าของเงินนั่นเองที่ไม่ชอบความรุนแรง ความไม่สงบ และอะไรที่คาดเดายาก ทำให้เงินทุนเริ่มไหลออกไปยังที่น่าจะปลอดภัย ในกรณีนี้หากสหรัฐก่อสงคราม ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็จะมีแนวโน้มแย่ลง ทำให้การโยกเข้าเงินดอลลาร์ก็จะไม่ใช่ทางเลือกที่ดี ความเฮงจึงมาตกกับทองคำซึ่งเป็นสกุลเงินหลักของโลกตัวจริง แต่แน่นอนว่าหากสงครามไม่เกิดขึ้นจริง ราคาทองคำที่ขึ้นมา 3-4 สัปดาห์อาจจะลงกลับไปที่เดิมบริเวณ $1,180 เหรียญอีกครั้งก็ได้ เนื่องจากทุกคนกำลังลืมประเด็นเรื่องการถอดหรือลดขนาด QE ไปแล้ว ซึ่งกำลังจะตัดสินใจภายในปีนี้ว่าจะยกเลิกหรือไม่ ..... เพราะฉะนั้นราคาทองคำโลกขึ้นในช่วงนี้ อย่าเพิ่งรีบซื้อเก็บ เพราะมันขึ้นจากปัจจัยความกลัวในระยะสั้นๆของตลาดเท่านั้น

สัญญา หาญพัฒนกิจพาณิช
ผู้อำนวยการทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก
กำลังโหลดความคิดเห็น