เอเอฟพี - น้ำมันวานนี้ (27) พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน ส่วนวอลล์สตรีทดิ่งหนัก หลังชาติตะวันตกขู่ลงโทษซีเรียจากข้อกล่าวหาใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชน อย่างไรก็ตามปัจจัยข้างต้นผลักทองคำทะยานกว่า 27 ดอลลาร์ เหตุความหวาดผวาต่อสงครามทำนักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 3.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2012 ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 3.63 ดอลลาร์ ปิดที่ 114.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน
สหรัฐฯ และชาติพันธมิตร ชี้ชัดว่ารัฐบาลซีเรียคือผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีด้วยอาวุธเคมีเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม อันคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปหลายร้อยชีวิต โดยเฉพาะวอชิงตันที่บอกว่าดามัสกัสต้องรับผิดชอบและกองทัพพร้อมปฏิบัติการแล้ว ขณะที่ชาติตะวันตกอื่นๆก็สนับสนุนมาตรการลงโทษต่อรัฐบาลของนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้เองก็จุดชนวนความกังวลต่ออุปทานทางพลังงานในซีเรีย หนึ่งในชาติผู้ส่งออกน้ำมัน
ขณะเดียวกัน แนวโน้มที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ว่าอเมริกาและชาติตะวันตก จะใช้ปฏิบัติการทางทหารตอบโต้ซีเรีย ต่อกรณีใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าพลเรือน ยังส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (27) ดิ่งลงหนัก ด้วยนักลงทุนกังวลถึงความเป็นไปได้ที่สถานการณ์ความขัดแข้งจะลุกลามบานปลายไปทั่วภูมิภาค
ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 170.56 จุด (1.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,775.90 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 26.30 จุด (1.59 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,630.48 จุด แนสแดคลดลง 79.05 จุด (2.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,578.52 จุด
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ชาติตะวันตกขยับเข้าใกล้ใช้ปฏิบัติการทางทหารกับซีเรียนี้ กลับผลักให้ทองคำวานนี้ (27) พุ่งขึ้นแรง ด้วยนักลงทุนเข้าช้อนซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ขณะเดียวกันก็ยังได้แรงหนุนจากความคาดหมายที่ว่าสหรัฐฯ อาจยืดระยะเวลามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกไป โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 27.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,420.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์