ชาติเพื่อนมิตรและประเทศศัตรูของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย เดินดุ่มมุ่งเข้าประจันหน้ากันในเวทีคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นเมื่อวันพุธ (28ส.ค.) โดยที่อังกฤษผลักดันเสนอญัตติเพื่อแผ้วถางทางสำหรับการเปิดฉากโจมตีทางทหารต่อดามัสกัส ในขณะที่อีกด้านหนึ่งอเมริกากับพันธมิตรก็ยังคงกดดันเพื่อลงมือปฏิบัติการทางทหารต่อรัฐบาลซีเรีย ถึงแม้มีเสียงเตือนอย่างหนักแน่นจากพวกผู้สนับสนุนอัสซาดอย่างรัสเซียและอิหร่าน
นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน แถลงว่า อังกฤษจะเสนอญัตติซึ่งมีเนื้อหา “ประณามอัสซาดที่ใช้อาวุธเคมีโจมตี” ต่อที่ประชุมของ 5 ชาติสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติในนครนิวยอร์กวันพุธ(28) นี้
“เราเคยพูดเรื่อยมาว่า คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นจะต้องแสดงออกให้สมกับความรับผิดชอบของตนในกรณีซีเรีย วันนี้พวกเขามีโอกาสที่จะทำเช่นนั้นแล้ว” คาเมรอน ระบุเช่นนี้ผ่านทวิตเตอร์
เวลาเดียวกัน บัน คีมุน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ก็เร่งเร้าคณะมนตรีให้ “หาทางสามัคคีกันเพื่อลงมือปฏิบัติการ … เพื่อใช้อำนาจความรับผิดชอบของตนให้บังเกิดสันติภาพ”
ทว่าลู่ทางโอกาสที่จะมีการลงมติอย่างรวดเร็วในญัตติของอังกฤษนี้ดูจะยังคงมืดมน
รัสเซีย พันธมิตรใกล้ชิดของดามัสกัส ซึ่งได้เคยใช้อำนาจวีโต้ของตนสกัดกั้นญัตติประณามซีเรียมาหลายครั้งแล้ว ได้ออกมากล่าวในวันพุธว่า ยังเร็วเกินไปที่คณะมนตรีจะลงมือปฏิบัติการอะไร ในเมื่อคณะตรวจสอบของยูเอ็นยังกำลังเข้าไปดูบริเวณชานกรุงดามัสกัสซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีการใช้อาวุธเคมีในสัปดาห์ที่แล้ว ดังนั้นจึงควรที่จะรอผลการตรวจสอบนี้เสียก่อน
ส่วน ลัคดาร์ บราฮินี ผู้แทนดูแลแก้ไขปัญหาซีเรียของยูเอ็น/สันนิบาตอาหรับ กล่าวยืนยันว่า มีการใช้ “วัสดุ” ทางเคมีในการโจมตีชานกรุงดามัสกัสเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ซึ่งเห็นกันว่าเป็นสาเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตไปหลายร้อยคน
แต่เขาก็เสริมว่า กฎหมายระหว่างประเทศระบุเอาไว้ชัดเจนว่า การปฏิบัติการทางทหารใดๆ จะต้องมีขึ้นหลังจากการลงมติของคณะมนตรีความมั่นคง
นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน แถลงว่า อังกฤษจะเสนอญัตติซึ่งมีเนื้อหา “ประณามอัสซาดที่ใช้อาวุธเคมีโจมตี” ต่อที่ประชุมของ 5 ชาติสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติในนครนิวยอร์กวันพุธ(28) นี้
“เราเคยพูดเรื่อยมาว่า คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นจะต้องแสดงออกให้สมกับความรับผิดชอบของตนในกรณีซีเรีย วันนี้พวกเขามีโอกาสที่จะทำเช่นนั้นแล้ว” คาเมรอน ระบุเช่นนี้ผ่านทวิตเตอร์
เวลาเดียวกัน บัน คีมุน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ก็เร่งเร้าคณะมนตรีให้ “หาทางสามัคคีกันเพื่อลงมือปฏิบัติการ … เพื่อใช้อำนาจความรับผิดชอบของตนให้บังเกิดสันติภาพ”
ทว่าลู่ทางโอกาสที่จะมีการลงมติอย่างรวดเร็วในญัตติของอังกฤษนี้ดูจะยังคงมืดมน
รัสเซีย พันธมิตรใกล้ชิดของดามัสกัส ซึ่งได้เคยใช้อำนาจวีโต้ของตนสกัดกั้นญัตติประณามซีเรียมาหลายครั้งแล้ว ได้ออกมากล่าวในวันพุธว่า ยังเร็วเกินไปที่คณะมนตรีจะลงมือปฏิบัติการอะไร ในเมื่อคณะตรวจสอบของยูเอ็นยังกำลังเข้าไปดูบริเวณชานกรุงดามัสกัสซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีการใช้อาวุธเคมีในสัปดาห์ที่แล้ว ดังนั้นจึงควรที่จะรอผลการตรวจสอบนี้เสียก่อน
ส่วน ลัคดาร์ บราฮินี ผู้แทนดูแลแก้ไขปัญหาซีเรียของยูเอ็น/สันนิบาตอาหรับ กล่าวยืนยันว่า มีการใช้ “วัสดุ” ทางเคมีในการโจมตีชานกรุงดามัสกัสเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ซึ่งเห็นกันว่าเป็นสาเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตไปหลายร้อยคน
แต่เขาก็เสริมว่า กฎหมายระหว่างประเทศระบุเอาไว้ชัดเจนว่า การปฏิบัติการทางทหารใดๆ จะต้องมีขึ้นหลังจากการลงมติของคณะมนตรีความมั่นคง