เอเจนซีส์ – รัฐบาลซีเรียเชื่อประเทศเสี่ยงต่อการถูกโจมตีได้ “ทุกเวลา” นับจากนี้ หลังผู้ตรวจสอบอาวุธเคมีขององค์การสหประชาชาติเดินทางออกจากซีเรียไปแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา(31) ขณะที่หลายประเทศเตือนพลเมืองของตนให้งดเดินทางไปเลบานอนซึ่งมีพรมแดนติดกับซีเรีย หวั่นได้รับอันตรายจากปฏิบัติการทางทหารของอเมริกา
เจ้าหน้าที่ความมั่นคงซีเรียซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า “เราเชื่อว่าตะวันตกอาจจะเปิดฉากโจมตีได้ตลอดเวลา”
ภารกิจของเจ้าหน้าที่ยูเอ็นที่ปิดฉากลงทำให้ทั่วโลกคาดหมายว่า เร็วๆนี้อาจจะมีการผนึกกำลังทหารโจมตีรัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด เพื่อลงโทษที่ใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าพลเรือนตัวเอง ขณะที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ก็แถลงชัดเจนวานนี้(30)ว่า กำลังเตรียมปฏิบัติการโจมตีซีเรีย “อย่างจำกัดและเฉพาะเจาะจง” พร้อมย้ำว่านานาชาติไม่ควรนิ่งเฉย เมื่อสตรีและเด็กชาวซีเรียหลายร้อยคนถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมด้วยแก๊สพิษทำลายระบบประสาท
คณะผู้ตรวจสอบยูเอ็นซึ่งขณะนี้เดินทางถึงเลบานอนแล้ว จะรายงานผลตรวจสอบให้เลขาธิการสหประชาชาติ บัน คี มูน ทราบว่ามีการใช้แก๊สพิษในวันที่ 21 พฤษภาคมจริงหรือไม่ โดยยึดหลักฐานที่พบในจุดเกิดเหตุ
ซีเรียปฏิเสธว่าทหารฝ่ายตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สังหารหมู่ ขณะที่วอชิงตันอ้างข้อมูลข่าวกรองว่า มีชาวซีเรียผู้บริสุทธิ์ถูกอาวุธเคมีคร่าชีวิตไปกว่า 1,400 คน
ล่าสุด บาห์เรน, คูเวต, อังกฤษ และฝรั่งเศส ได้เตือนพลเมืองงดเดินทางไปเลบานอนในระยะนี้ เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงที่กองทัพสหรัฐฯจะใช้ปฏิบัติการทางทหารกับซีเรีย ส่วนออสเตรียเพียงแนะนำให้ผู้ที่ต้องการเดินทางสอบถามสถานการณ์จากสถานทูตในเลบานอนเสียก่อน
บาห์เรนและคูเวตยังแจ้งให้พลเมืองของตนรีบเดินทางออกจากเลบานอนทันที ตามรายงานของสำนักข่าวแห่งชาติทั้ง 2 ประเทศ
แหล่งข่าวอาวุโสด้านความมั่นคงในเลบานอนเปิดเผยว่า เมื่อวันพฤหัสบดี(29) มีชาวต่างชาติเดินทางออกจากเลบานอนแล้วประมาณ 14,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป
เมื่อวานนี้(30) อังกฤษแจ้งให้ประชาชนงดเดินทางไปเลบานอน เว้นแต่มีธุระจำเป็นจริงๆ โดยเตือนถึงสถานการณ์อันตรายที่กำลังแผ่ลามจากซีเรียออกสู่ประเทศข้างเคียง และชี้ว่าแผนปฏิบัติการโจมตีของสหรัฐฯอาจจะก่อให้เกิดกระแสเกลียดชังชาวตะวันตกขึ้น
ปารีสได้ออกคำเตือนในลักษณะเดียวกัน เมื่อวันพฤหัสบดี(29)