xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรฯ ออก K-CONNEX เอาใจรายย่อย ชูลดต้นทุน 10%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“กสิกรไทย” พัฒนาบริการ K-CONNEX สำหรับกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ช่วยบริหารจัดการการเงินที่มีประสิทธิภาพ รับความผันผวนในอนาคต คาดลดต้นทุนได้ 10%

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK)เปิดเผยว่า จากสภาวการณ์ในด้านต่างๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและผันผวน ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจ ตลาดเงิน สังคม รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องมีการปรับตัวให้ทันต่อปัจจัยต่างๆ ที่เปลี่ยนไป รวมถึงธุรกิจใหญ่ที่มีโครงสร้างธุรกิจที่ซับซ้อน เพื่อให้สามารถบริหารจัดการด้านต้นทุนให้อยู่ในระดับที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจด้วย

ทั้งนี้ โจทย์หลักก็คือ จะทำอย่างไรให้เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทางการเงิน ลดความเยิ่นเย้อในขั้นตอนการตัดสินใจ และจะทำอย่างไรให้เข้าสามารถเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ซึ่งธนาคารกสิกรไทย ได้พัฒนาบริการ K-CONNEX ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ทำให้ธุรกิจขนาดใหญ่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินโดยมองเห็นกระแสเงินของบริษัทในเครือข่ายได้ทั้งหมดอย่างง่ายดาย

“การขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยจะไม่ใช่กระจุกอยู่ในเมืองหลวงแล้ว จะขยายไปในภูมิภาคมากขึ้น ต่างประเทศมากขึ้น อีกทั้งประชาชนเริ่มมีกำลังซื้อที่เพิ่มมากขึ้น การเข้าถึงลูกค้าจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เทคโนโลยีจึงถูกนำมาใช้มากขึ้น เพื่อรองรับความซับซ้อนทางการเงินที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งบริการดังกล่าวจะช่วยลดความซับซ้อนในการบริหารทางการเงินของบริษัทขนาดใหญ่ที่มีเครือข่าย หรือบริษัทลูกหลายๆ แห่ง”

นายวศิน กล่าวว่า บริการดังกล่าวของธนาคารก็ไม่ได้มุ่งเน้นด้านการเก็บรายได้ค่าธรรมเนียม แต่มองถึงปริมาณธุรกิจที่เพิ่มขึ้น และให้ลูกค้าเลือกใช้ธนาคารเป็นธนาคารหลัก

นายพจนารถ แสงพฤกษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า บริการ K-CONNEX เป็นนวัตกรรมที่ทำให้ธุรกิจขนาดใหญ่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินโดยมองเห็นกระแสเงินของบริษัทในเครือข่ายได้ทั้งหมดอย่างง่ายดาย ช่วยบริหารสภาพคล่องทางการเงิน และลดขั้นตอนด้านปฏิบัติการ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารเงินแก่ธุรกิจ โดยการโอนย้ายเงินไปยังบัญชีต่างๆ ได้ตามความเหมาะสม

“ก่อนหน้านี้บริษัทที่มีเครือข่าย หรือบริษัทลูกหลายแห่ง ก็จะต้องมีนักบัญชีมาคอยดูด้านเงินทุนเคลื่อนย้ายเข้า-ออกเพื่อจัดการด้านสภาพคล่อง ซึ่งซับซ้อน และใช้เวลาพอสมควร ทำให้มีเงินคงค้างเหลือในบัญชีต่างๆ เพื่อรอโอน หรืออื่นๆ ซึ่งเปล่าประโยชน์ แต่หากนำบริการดังกล่าวมาใช้ก็จะจัดการหมุนเงินได้เร็วขึ้น ลดการถือเงินสด หรือวงเงินกู้ที่ไม่จำเป็นออกไป”

โดยกลุ่มเป้าหมายหลักจะเป็นลูกค้าธุรกิจที่มีรายได้ 400 ล้านบาทขึ้นไป อยู่ในสถานะกำลังเติบโตเพิ่มขึ้น มีบัญชีเพื่อทำธุรกรรมหลายบัญชี ทางธนาคารจะมีการปรับโครงสร้างให้เข้ากับธุรกิจของลูกค้า โดยคาดว่าจะสามารถช่วยลดต้นทุนของธุรกิจลงได้ถึง 10%

ทั้งนี้ ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทย มียอดเงินฝากลูกค้าธุรกิจรายใหญ่อยู่ที่ 2.7 แสนล้านบาท โดยเติบโตจากปีก่อน 5% ตั้งเป้าปีหน้าโต 7-10% เป็น 3 แสนล้านบาท และรายได้ค่าธรรมเนียมการจัดการโต 12-16% ส่วนแบ่งทางการตลาดด้านธุรกิจบริหารเงินสดอยู่ที่ 25% ด้านเป้าหมายสินเชื่อของธุรกิจขนาดใหญ่ในปีนี้ตั้งเป้าการเติบโตเพิ่มขึ้น 4-6% รายได้จากค่าธรรมเนียมเติบโตกว่า 10% โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ รายได้จากการทำธุรกรรมทางการเงิน และรายได้ค่าธรรมเนียมจากการออกตราสารหนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น