“ทหารไทย” จัดเต็มยกเว้นค่าธรรมเนียมโอนเงินข้ามเขตธนาคารเดียวกัน ทุกช่องทาง ทุกบัญชี ประเมินเสียค่ารายได้ค่าฟี 100 ล้าน หวังดึงรายย่อยเพิ่ม ส่วนยอดสินเชื่อครึ่้งปีแรกต่ำกว่าเป้า แจงปรับพอร์ตลดรายใหญ่กระจายเสี่ยง ยังคงเป้าทั้งปีโต 10%
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)(TMB)เปิดเผยว่า เพื่อสนองความต้องการของลูกค้าในการดำเนินธุรกรรมทางการเงิน โดยเฉพาะในเรื่องการเสียค่าธรรมเนียมข้ามเขต เมื่อต้องทำธุรกรรมระหว่างบัญชีของธนาคารเดียวกัน ทีเอ็มบี จึงได้ยกระดับสิทธิประโยชน์ โดยยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียม ฝาก ถอน โอนเงินสดข้ามเขตภายในบัญชีทีเอ็มบี และฝากเล็กทุกธนาคารเข้าบัญชีทีเอ็มบี ผ่านทุกช่องทางการการบริการ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และไม่จำกัดวงเงิน ทั้งลูกค้าบุคคล และลูกค้าธุรกิจ ลูกค้าบัญชีเงินฝากทุกประเภท ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การยกระดับดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่สนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์พิจารณาปรับลดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมการเงินข้ามเขตภายในธนาคาร แต่เท่าที่สำรวจจะพบว่า การปรับลด หรือยกเว้นดังกล่าวมักจะมีเงื่อนไขเรื่องจำนวนครั้ง และเป็นการโอนเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก ขณะที่ทีเอ็มบีไม่มีเงื่อนไขดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามแนวคิด “ธุรกรรมการเงิน ต้องทีเอ็มบี” ส่วนลูกค้าที่ใช้บริการโอนเงินข้ามธนาคารนั้น ทีเอ็มบี ก็มีผลิตภัณฑ์ และบริการที่ช่วยประหยัดค่าธรรมเนียมอยู่แล้ว เช่น “บัตรเดบิต TMB โน ลิมิต” “บัญชี TMB โน ฟี” เป็นต้น
นายบุญทักษ์ กล่าวอีกว่า จากการยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าว ประเมินคร่าวๆ จะทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารลดลงประมาณ 100 ล้านบาท แต่สิ่งที่ธนาคารจะได้กลับมาเมื่อลูกค้าเดินเข้ามาใช้บริการก็คือ ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าที่สามารถนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์เขาได้ แล้วรายได้จากการบริการก็จะวนกลับมาเอง
แจงสินเชื่อต่ำเป้าเหตุปรับพอร์ต
สำหรับยอดสินเชื่อของธนาคารในช่วง 6 เดือนแรกของปี 56 มียอดเติบโตประมาณ 1-2% ซึ่งนับว่ายังต่ำกว่าเป้าหมายทั้งปีที่ธนาคารตั้งไว้ 10% เนื่องมาจากธนาคารได้พยายามที่จะปรับสัดส่วนสินเชื่อเพื่อกระจายความเสี่ยงมากขึ้น โดยปัจจุบัน พอร์ตสินเชื่อมีสัดส่วนรายใหญ่ 45% เอสเอ็มอี 35% และรายย่อย 20% ขณะที่สัดส่วนเหมาะสมที่ตั้งเป้าหมายไว้เป็นส่วนของรายใหญ่ 40% เอสเอ็มอี 30% และรายย่อย 30% ภายใน 2-3 ปีนี้
“การปรับสัดส่วนถือเป็นการกระจายความเสี่ยง และสัดส่วนรายย่อยเพิ่มขึ้น ก็จะช่วยสร้างรายได้ให้ธนาคารเพิ่มขึ้น และการเพิ่มขึ้นก็จะเป็นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่เพิ่มแบบก้าวกระโดดจึงทำให้ความเสี่ยงมีไม่มาก ซึ่ง NPL ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 4% และตั้งเป้าลดลงต่ำกว่า 3.5%ในปลายปีนี้”
ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในครึ่งปีหลังนั้น ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์บ้าง เพราะสินเชื่อก็จะเติบโตสอดคล้องกับจีดีพี แต่ก็มองว่ายังมีกลุ่มธุรกิจบางกลุ่มโดยเฉพาะเอสเอ็มอีขนาดเล็กที่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ การเติบโตของสินเชื่อจึงน่าจะยังเพิ่มต่อไปได้ โดยธนาคารยังไม่มีการปรับเป้าหมายสินเชื่อแต่อย่างใด แต่ปัจจัยที่ต้องจับตามองก็เป็นเรื่องของเศรษฐกิจโลก
ยันไม่รู้เรื่องไอเอ็นจีขายหุ้น
กรณีที่มีข่าวว่ากลุ่มเมย์แบงก์ จะเข้ามาซื้อหุ้นของธนาคารทหารไทยที่กลุ่มไอเอ็นจีถือว่านั้น นายบุญทักษ์ กล่าวว่า ตนยังไม่เคยได้ยินเรื่องดังกล่าว ซึ่งธนาคารก็ถือเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีผู้ถือหุ้นเปลี่ยแปลงอยู่ทุกวัน หน้าที่ของธนาคารก็คือ สร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น ดังนั้น การเปลี่ยนผู้ถือหุ้นก็ไม่น่าจะกระทบต่อการดำเนินงานของธนาคาร เนื่องจากธนาคารมีแบรนด์ที่ชัดเจนอยู่แล้ว มีการเติบโตอย่างยั่งยืน อยู่ในสเต็ปที่ยืนอยู่ได้ด้วยตนเองแล้ว