xs
xsm
sm
md
lg

เผย “บาทอ่อน” กดดัน “ต่างชาติ” เทขายหุ้นไม่หยุด คาดเงินยังไหลออกอีก 1-2 เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.กรุงศรี มองบาทอ่อนกดดันต่างชาติขายหุ้นไม่หยุด เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นดึงเงินไหลซบตลาดหุ้นพัฒนาแล้วเพื่อหนีปัญหาขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน และมีความเป็นไปได้ว่าในช่วง 1-2 เดือนนี้ ตลาดหุ้นไทยยังมีเงินไหลออกหลังจากจีดีพีไตรมาส 2 หดตัว และเมื่อถึงจุดที่นักลงทุนเห็นว่าขายไปมากแล้ว จนราคาหุ้นไทยอยู่ในระดับน่าลงทุนเม็ดเงินก็จะกลับเข้ามา

นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี เปิดเผยว่า แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว โดยเฉพาะสหรัฐฯ ส่งผลให้มีเงินทุนไหลเข้าไปยังตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือน ก.ค.2556 มีมูลค่า 207,539 ล้านเหรียญสหรัฐ นับเป็นมูลค่าสูงสุดตั้งแต่ปี 2546 ขณะเดียวกัน มีเงินไหลออกจากตลาดหุ้นกลุ่มตลาดเกิดใหม่ จำนวน 738 ล้านเหรียญสหรัฐ และส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อน

นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นตลาดเกิดใหม่ตั้งแต่เดือน มี.ค.-ก.ค.2556 โดยขายออกมากในเดือน มิ.ย. มูลค่าสูงถึง 21,533 ล้านเหรียญสหรัฐ

ดังนั้น ตัวเร่งสำคัญที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทย คือ การที่ค่าเงินบาทอ่อน ทำให้นักลงทุนต่างชาติที่ถือครองหุ้นไทยอยู่จะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน เห็นได้จากช่วงที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าจะมีเงินทุนไหลเข้ามาซื้อหุ้น ทำให้นักลงทุนต่างชาติได้กำไร 2 ทาง คือ ผลตอบแทนจากราคาหุ้นเมื่อราคาปรับขึ้น และอัตราแลกเปลี่ยน

“แรงขายหุ้นกลุ่มตลาดเกิดใหม่ยังมีออกมาต่อเนื่อง และเป็นปัจจัยที่มีน้ำหนักสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ และมีความเป็นไปได้ว่าในช่วง 1-2 เดือนนี้ ตลาดหุ้นไทยยังมีเงินไหลออกหลังจากจีดีพีไตรมาส 2 หดตัว และเมื่อถึงจุดที่นักลงทุนเห็นว่าขายไปมากแล้ว จนราคาหุ้นไทยอยู่ในระดับน่าลงทุน เม็ดเงินก็จะกลับเข้ามา” นายประภาสกล่าว

อย่างไรก็ตาม มองว่าปัจจุบันนักลงทุนได้กำไรจากตลาดหุ้นเกิดใหม่ และหุ้นไทยไปค่อนข้างมาก ในช่วงเวลานี้จึงฉวยจังหวะขายปรับพอร์ตเพื่อจัดสรรเงินลงทุนใหม่

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปีนี้คาดการณ์ว่า ยังเติบโตในระดับต่ำประมาณ 3.1% แต่ในปี 2557 จะดีขึ้น คาดการณ์เติบโต 3.8% โดยประเทศพัฒนาแล้วโดดเด่นจากปีนี้เติบโต 1.2% แต่ปี 2557 เติบโต 2.1% จึงเป็นเหตุผลทำให้หุ้นสหรัฐฯ พุ่งแรง ซึ่งเป็นปกติที่ตลาดหุ้นจะขานรับข่าวดีล่วงหน้าก่อนเศรษฐกิจจะฟื้นตัว 1-2 ปี

ส่วนเอเชีย ภาพรวมยังดูดี แม้จะมีบางประเทศที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงก็ตาม ส่วนเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยุโรปเศรษฐกิจมีสัญญาณดีขึ้นจากหลายประเทศ ความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤตรอบ 2 ในกลุ่มยุโรปมีน้อยมากแล้ว

ที่ผ่านมา กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วมีอัตราดอกเบี้ยต่ำมานาน 5 ปี ดังนั้น การปรับขึ้นดอกเบี้ยใน 5 ปีข้างหน้าคงยังไม่เห็นขึ้นเร็ว และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจก็ไม่แรง แต่จะค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากรัฐบาลของประเทศพัฒนาแล้วมีสัดส่วนหนี้ภาครัฐเกือบเต็มเพดาน 100% แล้ว จึงมองว่าอัตราเร่งของเงินเฟ้อจึงไม่น่าห่วง ซึ่งการจัดสรร และกระจายเงินลงทุนจึงเป็นสิ่งที่บริษัทแนะนำนักลงทุนมาตลอด และยังให้ความสำคัญต่อเนื่อง
กำลังโหลดความคิดเห็น