สมาคมไทยรับสร้างบ้าน เผยตลาดรับสร้างบ้าน กทม.และปริมณฑล ครึ่งปีแรกซบ ชี้ผู้ประกอบการต่างเร่งกระตุ้นกำลังซื้อผ่านกิจกรรมอีเวนต์ หวังดึงกำลังซื้อกลับมาคึกคัก ขณะที่ตลาด ตจว.กลับโตสวนทาง ด้วยเพราะเป็นตลาดใหม่ และหลายจังหวัดเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์เมื่ออนาคตประเทศไทยเปิดสู่ AEC นายก ส.ไทยรับสร้างบ้าน ประเมินความนิยมหันมาใช้บริษัทรับสร้างบ้านเพิ่มมากขึ้น หลังผู้รับเหมารายย่อยเลิกกิจการจำนวนมาก และผู้บริโภคเข้าถึงรับสร้างบ้านได้ง่ายขึ้น
นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน กล่าวว่า หลังจาก 6 เดือนแรกของปีนี้ บรรดาผู้ประกอบการรับสร้างบ้านรายเล็กรายกลางที่แข่งขันกันอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ต้องเผชิญกับวิกฤตขาดแคลนแรงงาน ต้นทุนค่าก่อสร้างที่ปรับสูงขึ้น และส่งผลให้ราคาบ้านสูงขึ้นตามกัน จนเป็นเหตุให้หลายรายประสบปัญหายอดขายชะลอตัว หรือลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายต่างคาดการณ์กันว่าเมื่อเข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลัง ตลาดรับสร้างบ้านจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะเชื่อจากสถิติที่ผ่านมา ผู้บริโภคจะตัดสินใจสร้างบ้านในช่วงครึ่งปีหลังมากกว่า แต่จากภาพที่ปรากฏในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาของไตรมาส 3 นี้ (ก.ค.-ส.ค.) พบว่า สถานการณ์ไม่เป็นดังที่คาดการณ์ไว้ ด้วยเพราะความกังวลของผู้บริโภคต่อการเสพข่าวสารที่มีออกมาว่า ภาวะเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ช่วงขาลง หรือถดถอย ปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง กอปรกับช่วงไตรมาส 3 นี้เป็นช่วงฤดูฝนและมีฝนตกเกือบทุกวัน ทำให้ความสนใจเรื่องการสร้างบ้านหลังใหม่ในระยะนี้จึงยังอยู่ในภาวะชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม ฟากผู้ประกอบการเองก็พยายามที่จะประชาสัมพันธ์ธุรกิจ และกระตุ้นกำลังซื้อให้กลับคืนมา ตัวอย่างเช่น การรวมตัวกันจัดมหกรรมสร้างบ้าน การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ เป็นต้น
ทั้งนี้ สมาคมฯ พบว่า ตลาดรับสร้างบ้านและผู้ประกอบการที่แข่งขันอยู่ในต่างจังหวัด ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา กลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆ และในบางจังหวัด หรือบางพื้นที่กลับเติบโตสวนทาง เช่น เชียงราย เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา สระบุรี ราชบุรี หัวหิน นครศรีธรรมราช กระบี่ หาดใหญ่ ฯลฯ ทั้งนี้ เป็นเพราะประการแรก การรับรู้ และความอ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของผู้บริโภคในต่างจังหวัดนั้นมีน้อยกว่า
ประการที่สอง ตลาดรับสร้างบ้านต่างจังหวัดถือเป็นตลาดใหม่ และยังมีความต้องการของผู้บริโภคอีกจำนวนมาก และประการสุดท้าย พื้นที่หลายจังหวัดเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่รองรับการขยายตัวในอนาคตเมื่อประเทศไทยเปิดสู่เออีซี ทั้งนี้ การขยายตัว และเติบโตของตลาดรับสร้างบ้านในภูมิภาค หรือต่างจังหวัดถือว่าเป็นไปตามทิศทางที่สมาคมฯ ได้เคยประเมินไว้เมื่อปลายปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี ตลาดรับสร้างบ้านปีนี้ยังไม่ได้ถึงขั้นถดถอย หรือชะลอตัวเมื่อดูจากภาพรวมทั่วประเทศ ซึ่งต้องรอดูว่าตลาดรับสร้างบ้านในเขต กทม.จะกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาส 4 มากน้อยเท่าไร
ปัจจุบัน การรับรู้ และความนิยมของผู้บริโภคที่มีต่อการใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านเพิ่มมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับในช่วง 4-5 ปีก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเมื่อมีบริษัทรับสร้างบ้านขยายการให้บริการออกไปยังภูมิภาค รวมถึงการเข้ามาของผู้ประกอบการรับสร้างบ้านรายใหม่ ที่มีระบบการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ และเลือกจะทำตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัดมากกว่าจะแข่งขันในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่กลายเป็นตลาดเรดโอเชียนไปแล้ว ส่งผลให้ผู้บริโภคเข้าถึงบริษัทรับสร้างบ้านได้ง่าย และสะดวกขึ้น กอปรกับปัจจุบันพบว่า ผู้รับเหมารายย่อยเองก็หายาก เพราะเลิกกิจการไปจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้รับเหมาในต่างจังหวัดจำนวนหนึ่งหันมารับเหมาช่วงกับบริษัทรับสร้างบ้านขนาดใหญ่แทน เพราะมีงานสร้างบ้านเนื่อง และได้เงินค่าจ้างแน่นอน
“ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อผู้ประกอบการ หรือแบรนด์สินค้าก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งผู้ประกอบการรายเล็กรายกลางจำเป็นต้องเร่งหาทางปรับตัวโดยเร็ว มิฉะนั้นจะตกอยู่ในสภาพที่เสียเปรียบ หรือเสียลูกค้าให้แก่รายใหญ่ หรือรายที่มีเครือข่าย และแบรนด์ที่เข้มแข็งกว่า”