ฮาริสัน เปิดแผนก CBD LAND & HOUSE รับฝากขายบ้านเศรษฐีกลางกรุง เผยสินค้าในมืองกว่า 100 รายการ มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ราคาตั้งแต่ 10-200 ล้านบาท ชูยอดขายพอๆ กับคอนโดฯ หรูกลางเมือง เผยกวาดยอดขายแล้ว 8,000 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 10,000 ล้านบาท
นายอลัน หลิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฮาริสัน จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโบรกเกอร์อสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดแผนกใหม่ CBD LAND & HOUSE ซึ่งเป็นบริการรับฝาก-ขายอสังหาริมทรัพย์ทั้งที่อยู่อาศัย และที่ดินเปล่าในย่านใจกลางเมือง เช่น เพลินจิต, ราชดำริ, สาทร, สุขุมวิท, อารีย์ และสีลม เป็นต้น
ปัจจุบันมีลูกค้านำบ้าน และที่ดินมาฝากขายกว่า 100 รายการ มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท ระดับราคาตั้งแต่ 10-200 กว่าล้านบาท เช่น บ้านเดี่ยวพร้อมที่ดินขนาด 300 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยกว่า 1,000 ตารางเมตร ซ.สุขุมวิท 21 ใกล้ธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่ ราคาประมาณ 200 ล้านบาท, บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พร้อมที่ดิน เนื้อที่ 261 ตร.ว. ซ.ทองหล่อ 21 ราคา 218 ล้านบาท, บ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ 230 ตร.ว. ซ.สุขุมวิท 26 ราคา 100 ล้านบาท, บ้านพร้อมที่ดินขนาด 300 ตร.ว. ซ.นายเลิศ ราคา 100 ล้านบาท และบ้านพร้อมที่ดินขนาด 200 ตร.ว.ราคา 27 ล้านบาท เป็นต้น
จากประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจโบรกเกอร์อสังหาฯ จะพบว่า กลุ่มลูกค้ามีทั้งต้องการขายที่อยู่อาศัยในเมือง หนีความคับคั่งของเมืองออกไปอยู่นอกเมือง หรือต้องการบ้านที่ขนาดใหญ่ขึ้น บางรายต้องการเข้ามาอยู่ในเมืองเพื่อความสะดวกสบาย ลดปัญหาการจราจรติดขัด ทำให้มีกลุ่มคนที่ต้องการซื้อ และขายบ้านในเมืองอยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม ราคาที่ดินในเมืองปรับขึ้นสูงมากโดยปัจจุบันปรับขึ้นมาจากปลายปีที่แล้ว 10% และหากย้อยไป 3-4 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินปรับขึ้นแล้ว 30-40% เช่น ย่านเพลินจิตราคาที่ดินเฉลี่ยมากกว่า 1.5 ล้านบาท/ตร.ว., สีลม 1.2-1.5 ล้านบาท/ตร.ว., สุขุมวิทตอนต้น-อโศก 1.8-2 ล้านบาท/ตร.ว., อโศก-เอกมัย 800,000-1.2 ล้านบาท, อารีย์ 900,000-1 ล้านบาท/ตร.ว., รัชดา 6-8 แสนบาท/ตร.ว. และพระราม 9 ราคา 3 แสนบาท/ตร.ว.
ทำให้ผู้ประกอบการต้องพัฒนาที่ซื้ออยู่อาศัยแพงขึ้น การซื้อคอนโดมิเนียมในเมืองปัจจุบันมีราคาสูงมาก ราคาเฉลี่ยตั้งแต่ 1 แสนบาท/ตร.ม.ไปจนถึง 3 แสนบาท/ตร.ม. หากซื้อห้องขนาดใหญ่ ราคาจะเทียบเท่ากับการซื้อบ้านเดียวกลางเมืองแต่ได้โฉนดที่ดินเป็นของตนเอง โดยที่ผ่านมา มีลูกค้าต้องการซื้อบ้านใจกลางเมืองจำนวนมาก แต่ไม่สามารถหาข้อมูลได้ เนื่องจากเจ้าของขายกันเอง หรือฝากโบรกเกอร์อื่นๆ ขาย ดังนั้น บริษัทจึงมีแนวคิดที่จะเป็นศูนย์กลางในการรับฝากซื้อขายอสังหาฯ ใจกลางเมืองดังกล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายแล้ว 8,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดฯ 2,000 ยูนิต มูลค่า 4,000-5,000 ล้านบาท ที่ดินเปล่า 3,000-4,000 ล้านบาท จากเป้าหมายยอดขายทั้งปี 10,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ตั้งเป้าเป็นยอดขายจาก CBD LAND & HOUSE จำนวน 2,000 ล้านบาท
นายอลัน กล่าวต่อว่า ภาพรวมการขายอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาชะลอลงเล็กน้อย เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการเปิดโครงการใหม่ มีซัปพลายเข้าสู่ตลาดมาก ลูกค้าจึงมีการเปรียบเทียบสินค้าทำให้การตัดสินใจชะลอออกไป ส่วนครึ่งปีหลังคาดว่าการขายมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะมีการออกโปรโมชันต่างๆ เพื่อจูงใจลูกค้า รวมถึงปัญหาจากรถคันแรกที่ทำให้การจราจรติดขัด ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น
ส่วนประเด็นเรื่องหนี้สินครัวเรือน ปัจจุบัน สถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่ปล่อยกู้ผู้ขอสินเชื่อรายย่อย 80-90% ปัจจุบันปล่อยกู้น้อยกว่า 80% รวมถึงการปล่อยกู้โครงการอสังหาริมทรัพย์ หากเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ที่ไม่เคยมีประสบการณ์สถาบันการเงินก็ไม่ปล่อยกู้ให้