THANA หุ้นอสังหาฯ ในตลาดเอ็มเอไอ ปลื้มหลังจากทำยอดขายครึ่งปีแรกโตกว่า 28% จาก 342 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 438 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 26.1 ล้าน เดินหน้าครึ่งปีหลัง เตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 3 โครงการ โดยขยายพื้นที่ไปในจังหวัดสกลนคร และนนทบุรี รวมมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท เพื่อรองรับเป้าหมายการเติบโตอีกกว่า 15-20%
นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THANA เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.56 ว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 20.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงินถึง 19.3 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้จากการขายบ้านเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 55 ประมาณ 71.8 ล้านบาท หรือเทียบเป็น 36.2% โดยมีรายได้จากการขาย 270.2 ล้านบาท จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขายอยู่ที่ 198.4 ล้านบาท
“หลายเดือนที่ผ่านมาลูกค้าคลายกังวลเกี่ยวกับเรื่องภาวะน้ำท่วม แต่ก็ยังพบว่า กำลังซื้อภาพรวมยังถือว่าหดตัวลงอันเนื่องมาจากนโยบายรถคันแรก และสภาวะหนี้สินต่อครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น”
นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในไตรมาส 2 ปี 56 เพิ่มขึ้นจาก 25.4% เป็น 29.6% เนื่องมาจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนได้รวมค่าใช้จ่ายในการดูแลฟื้นฟูสภาพโครงการ และจัดทำระบบป้องกันน้ำท่วมทุกโครงการ อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2 ของปีนี้ ก็ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพราะบริษัทฯ ยังคงต้องใช้กลยุทธ์คงราคาขายเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อที่หดตัวลง ขณะที่ต้นทุนค่าวัสดุ และแรงงานได้ปรับตัวสูงขึ้นมาโดยตลอด
ในปัจจุบัน บริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการขายทั้งหมด 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ 2,900 ล้านบาท โดยเป็นโครงการอยู่ในจังหวัดนนทบุรี 3 โครงการ ได้แก่ เดอะ คลัสเตอร์วิลล์ 4 ราชพฤกษ์-สิรินธร, ไพร์มเพลส เดอะกรีนเนอรี่ บางใหญ่ และธนาสิริ ราชพฤกษ์-ท่าน้ำนนท์ มูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท และส่วนอีก 2 โครงการที่เหลือเป็นโครงการที่เปิดขายอยู่ในจังหวัดภูเก็ต คือ ไพร์มเพลส เนรมิต-อนุสาวรีย์ 2 และสิริ วิลเลจ ภูเก็ต-อนุสาวรีย์
สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการ โดยรุกตลาดไปยังภาคอีสานเพื่อต้อนรับ AEC เริ่มที่จังหวัดสกลนครมี 1 โครงการที่เปิดพรีเซลล์ไปแล้ว ภายใต้แบรนด์ “สิริวิลเลจ” คือ โครงการ “สิริวิลเลจ สกลนคร-แอร์พอร์ต” ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวในทำเลใหม่ของบริษัทโดยพัฒนาเป็นบ้านแฝด และบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ราคาขายเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท จำนวน 34 ยูนิต มูลค่า 70 ล้านบาท และอีก 2 โครงการในโซนนนทบุรี ที่ถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบสาธารณูปโภคที่พร้อมรองรับ เช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วง และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ อย่างเช่น Central west gate โดยมีมูลค่าโครงการรวมทั้ง 3 โครงการ ประมาณ 700 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้ปีนี้บางส่วน เพื่อให้รองรับกับเป้าหมายการเติบโตของบริษัทที่ตั้งไว้ที่ 15-20%