“วิศรุต ชัยปาณี” เจ้าของปาร์ค อเวนิว- สาริน ซิตี้ ส่งไม้ต่อทายาทรุ่นที่ 2 ลุยธุรกิจอสังหาฯ งัดแลนด์แบงก์ 78 ไร่ผุดบ้านหรู “เดอะ ฮิลส์ เรสซิเด้นซ์ เขาใหญ่” มูลค่า 960 ล้านบาท เล็งงัดแลนด์แบงก์ย่านสมุทรปราการออกพัฒนา พร้อมปรับออฟฟิศย่านเอกมัยเป็นโรงแรม
นายศรัณย์ ชัยปาณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิสคอฟเวอร์รี่ ปาร์ค จำกัด เปิดเผยว่า ตนเป็นทายาทของนายวิศรุต ชัยปาณี (ผู้พัฒนาโครงการ ปาร์ค อเวนิว ศรีนครินทร์ และเอกมัย รวมถึงหุ้นส่วนในโครงการใหญ่ สาริน ซิตี้ ซึ่งประสบปัญหาในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 และได้วางมือจากผู้บริหารเหลือแค่ตำแหน่งกรรมการ)ซึ่งได้เห็น และเรียนรู้การบริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาตั้งแต่เด็ก จึงมีแนวคิดที่จะนำที่ดินสะสมของครอบครัวที่มีอยู่หลายแปลงออกมาพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมถึงการซื้อที่ดินแปลงอื่นๆ มาบริหารอีกด้วย โดยร่วมกับน้องชาย นายณดล ชัยปาณี มาช่วยบริหารงาน
ล่าสุด ได้นำที่ดินสะสมของครอบครัวกว่า 20 ปี บริเวณถนนธนะรัชต์ กม.9 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มาพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวภายใต้ชื่อ “เดอะ ฮิลส์ เรสซิเด้นซ์ เขาใหญ่” ตั้งอยู่บนพื้นที่ทั้งหมด 78 ไร่เศษ แบ่งการพัฒนาเป็น 3 เฟส รวมมูลค่าโครงการ 960 ล้านบาท โดยเฟสแรก ตั้งอยู่บนพื้นที่ 23 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว สไตล์โมเดิร์น จำนวน 30 ยูนิต ขนาดตั้งแต่ 120-240 ตารางวา ราคาขายเริ่มต้นที่ 6.9-12 ล้านบาท มูลค่าโครงการประมาณ 270 ล้านบาท โดยมอบหมายให้บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เป็นผู้บริหารงานขาย ซึ่งได้เปิดการขายอย่างเป็นทางการด้วยการไปออกบูทแนะนำโครงการ ระหว่างวันที่ 12-18 สิงหาคม ณ สยามพารากอน คาดว่าจนถึงเดือนธันวาคมนี้ จะสามารถปิดยอดขายได้ประมาณ 50%
ส่วนเฟส 2 รูปแบบจะคล้ายเฟสแรก แต่จะมีแบบบ้านเพิ่มมากขึ้น ขณะที่เฟส 3 จะเป็นรูปแบบการแบ่งขายที่ดินจัดสรร ขนาดตั้งแต่ 390 ตารางวาขึ้นไป ในราคาประมาณ 1.9-2.5 หมื่นบาท/ตารางวา
“เดิมที่ดินแปลงนี้ของครอบครัวมีทั้งหมดประมาณ 200 ไร่ และคุณแม่ได้นำพื้นที่ด้านบนซึ่งมีวิวสวยที่สุดประมาณ 30 ไร่ พัฒนาเป็นรีสอร์ตขนาดเล็ก จำนวน 30 หลัง ภายใต้ชื่อ “ดิสคอฟเวอร์รี่ ฮิลส์” ต่อมา เมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมาได้พัฒนาเพิ่มอีกรวมเป็น 40 หลัง อัตราค่าบริการอยู่ที่ 1,000-3,000 บาท/คืน นอกจากนี้ ยังได้ตัดแบ่งที่ดินไปบางส่วนจนปัจจุบันเหลือที่ดินเหลือพัฒนาเพียง 120 ไร่ จึงได้นำมาพัฒนา “เดอะ ฮิลส์ เรสซิเด้นซ์ เขาใหญ่” 78 ไร่เศษ ซึ่งคาดว่าจะสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ในปี 2558”
ด้านนายณดล ชัยปราณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิสคอฟเวอร์รี่ ปาร์คฯ กล่าวว่า เขาใหญ่ยังมีโอกาสในการเติบโตสูง หากไม่นำที่ดินมาพัฒนาในช่วงนี้จะเป็นการเสียโอกาส เพราะในอนาคตจะมีถนนมอเตอร์เวย์ รถไฟฟ้าความเร็วสูง มายัง จ.นครราชสีมา ก็จะยิ่งทำให้เขาใหญ่มีอัตราการเจริญเติบโตสูงมาก และการแข่งขันก็จะสูงตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจพบว่า ที่ผ่านมาผู้ประกอบการที่เข้ามาลงทุนจะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเป็นส่วนใหญ่ บริษัทฯ จึงได้พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวเพื่อฉีกแนวตลาดออกไป ซึ่งมีราคาใกล้เคียงกับคอนโดฯ ในขณะที่ลูกค้ามีโฉนดที่ดินเป็นของตนเอง มีพื้นที่ส่วนตัวได้มากกว่าคอนโดฯ อีกทั้งยังมีบริการต่างๆ จาก รีสอร์ต ดิสคอฟเวอร์รี่ ฮิลส์ อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะร่วมกับผู้ประกอบการโครงการ สักภูเดือน โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท เขาใหญ่ ซึ่งเป็นนักลงทุนท้องถิ่น ในการนำรีสอร์ต “ดิสคอฟเวอร์รี่ ฮิลส์” มาปรับปรุงเพื่อให้บริการในรูปแบบของที่พักเพื่อสุขภาพ ที่มีโปรแกรมดูแลสุขภาพต่างๆ มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายระดับกลางขึ้นไป โดยจะมีการปรับราคาที่พักขึ้นมาอีกเล็กน้อยเป็น 2,000-3,000 บาท/คืน คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ภายในระยะเวลา 3 เดือนนี้
ด้าน นายศรัณย์ กล่าวต่อว่า ตนยังมีแผนที่จะปรับปรุงโครงการปาร์ค อเวนิว เอกมัย ในส่วนของอาคารสำนักงาน สูง 7 ชั้น ที่ปัจจุบันมีผู้เช่าเต็มพื้นที่ (สัญญาเช่าปีต่อปี) ให้เป็นโรงแรมบูติก โฮต็ล สไตล์นิวยอร์ก โดยจะพัฒนาชั้นละประมาณ 4-6 ห้องพัก รวม 30 ห้อง คาดว่าจะใช้เม็ดเงินลงทุนประมาณ 60 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าปัจจุบันย่านทองหล่อ-เอกมัย และสุขุมวิท มีการเติบโตอย่างมาก แม้ว่าจะมีโรงแรมใหม่ๆ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่อัตราการเข้าพักก็มีสูงอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ครอบครัวยังมีที่ดินสะสมย่านบางพลีอีก 2 แปลง โดยมีแผนที่จะนำมาพัฒนาโครงการในอนาคต รวมถึงที่ดินขนาด 200 ไร่ ที่ จ.เชียงราย