ทำเลพระรามสองฮอตรับอานิสงส์สีผังเมืองเปลี่ยนปล่อยสร้างตึกสูง หนุนราคาที่ดินพุ่ง 100% ด้าน วี.เอ็ม.พี.ซี.เผยตุนที่ดิน 3-4 แปลง พัฒนาบ้านหรูราคา 15-50 ล้านบาท หลังแอสเทร่า เรสซิเด้นซ์ พระราม 2-พุทธบูชา ประสบความสำเร็จ ปลายปีเปิดตัวโครงการบ้านหรูหลังละ 50 ล้าน
นายปริญญา เธียรวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.เอ็ม.พี.ซี. จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์บริเวณพระราม 2 ใช่ช่วง 2 ไตรมาสแรกของปี 2556 มีทิศทางเติบโตมากขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาประมาณ 1 เท่าตัว เป็นผลมาจากผังเมืองใหม่ที่ปรับสีผังเมืองจากสีเหลือง-ส้ม เป็นส้ม ทำให้สามารถสร้างอาคารขนาดใหญ่ได้ ส่งผลให้ที่ดินมีศักยภาพมากขึ้นในการพัฒนาโครงการจัดสรร ราคาประเมินที่ดินเพิ่มขึ้นเฉลี่ย ตร.ว.ละ 20,000-25,000 บาท ขณะที่ราคาที่ดินที่ซื้อขายในปัจจุบันยังเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา เฉลี่ยจาก 5-6 หมื่นบาท/ตร.ว. เพิ่มเป็นกว่า 1 แสนบาท/ตร.ว.
นอกจากนี้ ทำเลพระราม 2 ยังเป็นย่านที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ และผู้ประกอบการท้องถิ่น ต่างพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวใหม่ในระดับไฮเอนด์ราคา 15-50 ล้านบาท อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของตลาดแนวสูงก็มีคอนโดมิเนียมเริ่มผุดให้เห็นเช่นกัน ซึ่งจากการลงพื้นที่สำรวจตลาดพบว่าอัตราขายคอนโดมิเนียมเฉลี่ยอยู่ที่ 24 ยูนิตต่อเดือน ด้านตลาดทาวน์เฮาส์ ระดับราคา 2.9-5 ล้านบาท ยังเป็นตลาดที่มีปริมาณยูนิตสูงสุดในปัจจุบัน โดยมียอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 9 ยูนิตต่อเดือน
“ปัจจัยที่ทำให้ย่านพระราม 2 มีการเจริญเติบโตในทิศทางที่ดีนั้น เพราะพระราม 2 เป็นจุดกึ่งกลางของการเดินทางเข้าย่านเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ โดยผู้ประกอบการเจ้าของธุรกิจที่มีโรงงานอยู่บริเวณบางขุนเทียน จนถึงสมุทรสาคร ซึ่งเป็นกำลังซื้อหลักของอสังหาฯ ในย่านนี้ เพราะสะดวกต่อการเดินทาง ติดต่อธุรกิจต่างๆ รวมถึงกำลังซื้อในกลุ่มพนักงานในแถบนี้ด้วยเช่นกันที่ยังสามารถเติมเต็มตลาดทาวน์เฮาส์ได้อย่างดี” นายปริญญากล่าวและว่า
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยด้านการขยาย และเพิ่มความสะดวกสบายของระบบสาธารณูปโภคด้านคมนาคมก็เป็นอีกหนึ่งพลังผลักดันการเติบโต ทั้งโครงการทางด่วนเพิ่มเติมส่วนขยายต่อจากดาวคะนอง มุ่งหน้าวงแหวน โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงผ่านบริเวณแยกสุขสวัสดิ์ ตัดพระราม 2 และยังเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งโรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน สวนสาธารณะ และระบบขนส่งมวลชนล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้พระราม 2 เติบโตขึ้นอย่างน่าจับตา
สำหรับทิศทางการเติบโตของย่านพระราม 2 ในอนาคตยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อมันว่ากำลังซื้อในส่วนของตลาดบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ยังเป็นกำลังซื้อหลักของตลาดในทำเลนี้ ซึ่งเติบโตเฉลี่ยปีละ 22-27% ผนวกกับการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคของภาครัฐ จะยิ่งช่วยให้ทำเลนี้สามารถเพิ่มศักยภาพในตัวเองได้อีกมาก ทำให้นับจากนี้ราคาที่ดินโดยเฉลี่ยจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ในขณะที่กำลังซื้อก็มีเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ส่วนหนึ่งมาจากผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ที่ทำให้คนที่อาศัยในย่านตะวันตกของกรุงเทพฯ ย้ายถิ่นฐานมายังพระราม 2 จำนวนมาก
ด้านความเคลื่อนไหวของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ก็มีจำนวนมากขึ้นที่เข้ามาพัฒนาโครงการชิงแชร์กับผู้ประกอบการเจ้าถิ่น ที่น่าสนใจอย่างมากคือ การเกิดโครงการคอนโดมิเนียม ที่มีกระแสตอบรับไม่น้อยหน้าย่านรัตนาธิเบศร์-บางใหญ่ จึงเป็นเรื่องที่น่าจับตานับจากนี้ว่า พระราม 2 จะเติบโตต่อไปอย่างไรในอนาคต ซึ่งผู้ประกอบการต่างให้ความสำคัญทุกความเคลื่อนไหวของตลาดเพื่อปรับกระบวนยุทธ์ด้านการตลาดให้สอดคล้อง
นายปริญญา กล่าวต่อว่า ที่ผ่านบริษัทมาได้พัฒนาโครงการแอสเทร่า เรสซิเด้นซ์ พระราม 2-พุทธบูชา บ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์น โครงการแรกย่านพระราม 2 มูลค่า 150 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่บริเวณพระราม 2 ถนนพุทธบูชา ซอย 21-23 จำนวนยูนิตเพียง 10 ยูนิต ขนาด 3 ชั้นครึ่ง บนพื้นที่ 62 ตารางวาขึ้นไป มีพื้นที่ใช้สอย 365 ตารางเมตร จอดรถได้ 3 คัน ราคาเริ่มต้นเพียง 16 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 7 ยูนิต
ทั้งนี้ จากยอดขายดังกล่าวถือว่าประสบความสำเร็จ บริษัทจึงมีแผนที่จะพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมนำที่ดินสะสม และที่ดินซื้อเข้ามาใหม่เตรียมพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้าเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ “แอสเทร่า ไพรด์ สุขสวัสดิ์” บ้านหรูขนาด 4 ชั้น จำนวน 47 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 50 ล้านบาท บนพื้นที่ 12 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 1,500 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างบ้านเพื่อให้แล้วเสร็จก่อนขาย
ล่าสุด บริษัทได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารกรุงเทพ จำนวน 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะนำมาใช้พัฒนาโครงการแอสเทร่า ไพรด์ สุขสวัสดิ์ รวมถึงการซื้อที่ดินขนาด 28 ไร่ เพื่อพัฒนาโครงการบ้านหรูเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ บริษัทเตรียมนำที่ดินสะสมเพื่อรอการพัฒนาอีก 2 แปลง ขนาดแปลงละ 12 ไร่ บนถนนพระราม 2 ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก คาดว่าจะเริ่มพัฒนาได้ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป