xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรฯ ดูดเงินฝากรายใหญ่ ตจว. เปิดศูนย์เพิ่มรับเศรษฐกิจเฟื่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“กสิกรไทย” เล็งขยายฐานลูกค้าธนบดีธนกิจออกสู่ภูมิภาค ระบุมีจีดีพีเติบโตสูงกว่ากรุงเทพฯ เน้นขยายสาขาเพิ่ม หวังเพิ่มสัดส่วนเป็น 60% ในอีก 1-2 ปี

นายปกรณ์ พรรธณะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK)กล่าวว่า ธนาคารมีแนวทางที่จะขยายฐานลูกค้าธนบดีธนกิจ (Wealth Management) ออกไปในภูมิภาคมากขึ้น โดยเฉพาะใน 19 จังหวัดยุทธศาสตร์หลักของธนาคาร จากปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ กว่า 60% และคาดว่าในอีก 1-2 ปี จะสามารถทำสัดส่วนลูกค้าต่างจังหวัดได้ 60% และกรุงเทพฯ 40%

ทั้งนี้ การที่ธนาคารมุ่งขยายฐานลูกค้าไปในต่างจังหวัดมากขึ้นนั้น เนื่องจากเศรษฐกิจในต่างจังหวัดมีการขยายตัวในระดับที่สูง เป็นตัวเลข 2 หลักมาระยะหนึ่งแล้ว และยังมีแนวโน้มศักยภาพที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเข้าหาลูกค้าต่างจังหวัดจะมีแผนการเปิด WISDOM Center จากในปัจจุบันมี 40 แห่งทั่วประเทศ จะเพิ่มขึ้นเป็น 100 แห่ง ทั่วประเทศภายในปีนี้ โดยจะเป็นเลานจ์ในสนามบิน และศูนย์การค้าขนาดใหญ่ มีพื้นที่พักผ่อน ตู้นิรภัยที่มีความทันสมัย บริการตรวจสุขภาพ อีกทั้งจะมีการให้ความรู้เรื่องการลงทุน เพราะลูกค้าต่างจังหวัดยังมีสัดส่วนเงินฝากที่มากกว่าการลงทุน

“เศรษฐกิจในภูมิภาค โดยเฉพาะในจังหวัดหัวเมืองหลักมีอัตราการเติบโตที่ดีกว่าอัตราการเติบโตในกรุงเทพฯ ซึ่งธนาคารจะใช้การเปิดศูนย์ตามห้างสรรพสินค้า และสนามบิน รวมถึงการให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องการลงทุนเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน สัดส่วนระหว่างเงินฝากกับเงินลงทุนในส่วนของลูกค้าภูมิภาค ยังมีสัดส่วนเงินฝากมากกว่า เพราะเงินฝากเป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย และเป็นความรู้สึกถึงมั่นคงมากกว่า”

นายปรกรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันลูกค้ากลุ่มมั่งคั่งอของธนาคารแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีเงินฝากตั้งแต่ 10-50 ล้านบาท จำนวน 78,000 ราย และกลุ่มที่มีเงินฝากตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป มีจำนวน 6,000 ราย โดยสัดส่วนการลงทุนของลูกค้ากลุ่มนี้จะแบ่งออกเป็นเงินฝาก 50% กองทุนและประกัน 50% ซึ่งแนวโน้มในช่วงต่อไปจะเห็นการลงทุนในกองทุนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เพราะได้รับผลตอบแทนที่ค่อนข้างดี และลูกค้าจะให้ความสนใจในการเข้าไปลงทุนในกองทุนและประกันเพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับการตั้งเป้าเงินฝากเติบโตเพิ่มขึ้น 10% และกองทุนเติบโตเพิ่มขึ้น 20%

อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในสิ้นปีฐานลูกค้ารวมทั้งหมดจะเป็นเพิ่ม 115,000 ราย โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ทั้งสิ้น 930,000 ล้านบาท

นายปกรณ์ กล่าวอีกว่า ในภาวะเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโนัมผันผวนจาจากภาวะเศรษฐกิจโลก ขณะที่เศรษฐกิจประเทศหลักมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัว ทั้งยุโรป และอเมริกา ส่วนญี่ปุ่น สภาวะเศรษฐกิจค่อนข้างทรงตัวมานานมากแล้ว ในด้านการลงทุนธนาคารจะเน้นคุณภาพของพนักงานที่ดูแลลูกค้า คอยประเมินความเสี่ยง และความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก
กำลังโหลดความคิดเห็น