xs
xsm
sm
md
lg

เชื่อระดมทุนคึกแตะ 1 ล้านล้าน “รวงข้าว” มองครึ่งปีหลังเป็นจังหวะดี ดอกต่ำ-ตลาดผันผวนน้อย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“รวงข้าว” มองแนวโน้มการระดมทุนในช่วงต่อไปยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะในภาคตลาดทุน เชื่อกระแสเงินทุนต่างชาติยังไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่มากเหมือนก่อนหน้านี้ ถือเป็นจังหวะดีเพราะต้นทุนดอกต่ำ แถมผันผวนน้อยกว่าครึ่งปีแรก ชี้การระดมทุนของผู้ประกอบการขนาดใหญ่จะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องที่ 7.5-8.0% จากปีก่อน โดยคาดว่าการลงทุนของภาครัฐ และเอกชนจะสูงถึง 1 ล้านล้านบาทปีนี้

นายภานพ อังศุสิงห์ ผู้บริหารสายงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย มองว่า แนวโน้มการระดมทุนในช่วงต่อไปยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะในภาคตลาดทุนที่กระแสเงินทุนต่างชาติยังไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง แต่จะไม่สูงเท่ากับช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากสหรัฐฯ จะทยอยลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (คิวอี) ทำให้สภาพคล่องน้อยลง แต่จะไม่ถึงขั้นภาวะสภาพคล่องตึงตัว ซึ่งถือเป็นจังหวะที่ดีที่เอกชนจะเข้ามาระดมทุนในช่วงนี้เพราะอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่บรรยากาศการลงทุนจะผันผวนน้อยกว่าครึ่งแรกของปีนี้

ด้านนายวศิน วณิชย์วรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีนี้น่าจะขยายตัวลดลงจากที่เคยคาดว่าร้อยละ 4.8 เหลือเพียงร้อยละ 4 เนื่องจากการบริโภคยังคงชะลอตัวต่อเนื่องต่อจากช่วงครึ่งปีแรก รวมทั้งหนี้ครัวเรือนพุ่งขึ้นต่อเนื่อง และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลหมดลงเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา ประกอบกับยังมีความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกจากการลดมาตรการคิวอีของสหรัฐฯ โดยมองว่าค่าเงินบาทอาจกลับมาแข็งค่าที่ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงปลายปี

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการระดมทุนของผู้ประกอบการขนาดใหญ่จะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องที่ร้อยละ 7.5-8.0 จากปีก่อน โดยคาดว่าการลงทุนของภาครัฐแ ละเอกชนจะสูงถึง 1 ล้านล้านบาทปีนี้ ขณะที่เอกชนสนใจขอสินเชื่อขนาดใหญ่จากธนาคารกสิกรไทยมีอยู่ประมาณ 150,000-200,000 ล้านบาท

ส่วนในปีหน้า คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ร้อยละ 4.5 โดยปัจจัยหลักมาจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ ที่จะช่วยผลักดันการลงทุนของเอกชนให้ขยายตัวขึ้นจากร้อยละ 3.3 ในปีนี้ เป็นร้อยละ 5.3 ในปีหน้า และจะมีความต้องการสินเชื่อรายใหญ่เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 8 จากปีนี้ ขณะที่การฟื้นตัวของเศณษฐกิจโลกโดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนที่จะโตจากร้อยละ 7.4 เป็นร้อยละ 7.5 ซึ่งเป็นการเติบโตที่มีความยั่งยืนขึ้น ขณะที่สหรัฐฯ จะขยายตัวร้อยละ 2.4 ส่วนยุโรปนั้นจีดีพีจะกลับมาบวกได้ร้อยละ 0.8 ก็เป็นปัจจัยผลักดันเศรษฐกิจเช่นกัน

ส่วนคุณภาพของลูกหนี้ขนาดใหญ่ยังไม่มีภาวะที่น่ากังวล แม้ว่ากลุ่มลูกค้าอุปโภคบริโภคอาจจะมีปัญหาบ้างเล็กน้อยก็ตาม เนื่องจากมีการสต๊อกสินค้าอุปโภคบริโภคไว้เป็นจำนวนมาก แต่ยอดการขายขยายตัวลดลงจากการบริโภคที่ชะลอตัว ขณะที่สินค้าเกษตรได้ชะลอตัวลงเช่นกัน สวนทางกับกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพหนี้ดี เนื่องจากภาคการก่อสร้างขยายตัวดีตามการลงทุนเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี
กำลังโหลดความคิดเห็น