ธนาคารกสิกรไทยเผยผลงานแบงก์แอสชัวรันซ์ครึ่งปีแรกแจ่มทำได้เกินเป้าที่ตั้งไว้ 36,000 ล้านบาท สิ้นปีปรับเป้าเพิ่มเป็น 40,000 ล้านบาท ลั่นหวังคว้าแชมป์อันดับ 1 ล่าสุดคลอดแคมเปญ “ประกันชีวิตหยุดได้หายห่วง” เจาะกลุ่มลูกค้าระดับล่างที่มีอายุอิสระ ส่งเบี้ยวันละ 19 บาท คุ้มครอง 200%
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินธุรกิจแบงก์แอสชัวรันซ์ครึ่งปีแรกของปี 2556 ว่า ในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมามีเบี้ยประกันรวมกว่า 21,000 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 34% คิดเป็นส่วนแบ่งในตลาดแบงก์แอสชัวรันซ์ที่ 23% และเป็นเบี้ยรับใหม่ปีแรกกว่า 11,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 39% คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดแบงก์แอสชัวรันซ์ที่ 24%
ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว พร้อมเป้าหมายการขึ้นเป็นอันดับที่ 1 ในตลาดแบงก์แอสชัวรันซ์ในสิ้นปีนี้ด้วยเบี้ยประกันรวมที่ 40,000 ล้านบาท เติบโต 18% ครองส่วนแบ่งตลาดแบงก์แอสชัวรันซ์ที่ 24% พร้อมเบี้ยประกันรับใหม่ที่ 20,000 ล้านบาท เติบโต 25%
ล่าสุดบริษัทได้ออกแคมเปญ “ประกันชีวิตหยุดได้หายห่วง” โดยแคมเปญดังกล่าวออกมาเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าผู้มีอาชีพอิสระที่ไม่มีรายได้ประจำในรูปแบบเงินเดือน ซึ่งถือว่าเป็นตลาดใหม่ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงระบบประกันได้ และเป็นกลุ่มที่ต้องการการชดเชยรายได้ที่สูญเสียไปหากจำเป็นต้องหยุดงาน
ทั้งนี้ เราถือว่าเป็นเจ้าแรกที่ออก จุดเด่นคือ เบี้ยประกันต่ำ เริ่มต้นเพียงวันละ 19 บาท ในกรณีที่ผู้เอาประกันเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลจะได้รับเงินชดเชยวันละ 500 บาท สูงสุด 365 วัน ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบเมื่อขาดรายได้จากการหยุดงาน โดยมีทุนประกันรวม 100,000 บาท ให้ความคุ้มครอง 200% ของทุนประกัน ระยะเวลาการชำระ 20 ปี คุ้มครองถึง 95 ปี เริ่มตั้งแต่อายุ 25-65 ปีที่สามารถทำประกันได้และเมื่อครบสัญญาสามารถรับเงินคืนได้ 100%
โดยแคมเปญดังกล่าวจะขายผ่านทางสาขาเป็นหลัก ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าว่าสิ้นปีจะสามารถหาลูกค้ากับกรมธรรม์นี้ได้ถึง 20,000 ราย คิดเป็นค่าเบี้ยประกันกว่า 140 ล้านบาท จากสาขาที่มีอยู่กว่า 900 สาขา
นายปกรณ์ กล่าวต่อไปว่า แนวทางการดำเนินงานธุรกิจแบงก์แอสชัวรันซ์ในครึ่งปีหลังเพื่อครองความเป็นอันดับ 1 ของตลาด เราจะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่เจาะลึกถึงกลุ่มที่เป็น Sub-Segment เพื่อให้เข้าถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
“ในช่วงต้นปีหน้าบริษัทเตรียมร่วมมือกับบริษัทเมืองไทยประกันภัย โดยการออกแคมเปญแบบประกันที่คล้ายกับลูกค้าที่จะครบกรมธรรม์ ซึ่งแพกเกจใหม่ที่จะออกคงไม่แตกต่างจากของเดิมที่มีอยู่ แต่คงจะมีสิทธิพิเศษที่นอกเหนือจากตัวเก่าที่จะครบไป ซึ่งเราต้องทำให้ลูกค้ากลุ่มเก่ายังคงอยู่กับเราให้ได้”
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินธุรกิจแบงก์แอสชัวรันซ์ครึ่งปีแรกของปี 2556 ว่า ในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมามีเบี้ยประกันรวมกว่า 21,000 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 34% คิดเป็นส่วนแบ่งในตลาดแบงก์แอสชัวรันซ์ที่ 23% และเป็นเบี้ยรับใหม่ปีแรกกว่า 11,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 39% คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดแบงก์แอสชัวรันซ์ที่ 24%
ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว พร้อมเป้าหมายการขึ้นเป็นอันดับที่ 1 ในตลาดแบงก์แอสชัวรันซ์ในสิ้นปีนี้ด้วยเบี้ยประกันรวมที่ 40,000 ล้านบาท เติบโต 18% ครองส่วนแบ่งตลาดแบงก์แอสชัวรันซ์ที่ 24% พร้อมเบี้ยประกันรับใหม่ที่ 20,000 ล้านบาท เติบโต 25%
ล่าสุดบริษัทได้ออกแคมเปญ “ประกันชีวิตหยุดได้หายห่วง” โดยแคมเปญดังกล่าวออกมาเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าผู้มีอาชีพอิสระที่ไม่มีรายได้ประจำในรูปแบบเงินเดือน ซึ่งถือว่าเป็นตลาดใหม่ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงระบบประกันได้ และเป็นกลุ่มที่ต้องการการชดเชยรายได้ที่สูญเสียไปหากจำเป็นต้องหยุดงาน
ทั้งนี้ เราถือว่าเป็นเจ้าแรกที่ออก จุดเด่นคือ เบี้ยประกันต่ำ เริ่มต้นเพียงวันละ 19 บาท ในกรณีที่ผู้เอาประกันเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลจะได้รับเงินชดเชยวันละ 500 บาท สูงสุด 365 วัน ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบเมื่อขาดรายได้จากการหยุดงาน โดยมีทุนประกันรวม 100,000 บาท ให้ความคุ้มครอง 200% ของทุนประกัน ระยะเวลาการชำระ 20 ปี คุ้มครองถึง 95 ปี เริ่มตั้งแต่อายุ 25-65 ปีที่สามารถทำประกันได้และเมื่อครบสัญญาสามารถรับเงินคืนได้ 100%
โดยแคมเปญดังกล่าวจะขายผ่านทางสาขาเป็นหลัก ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าว่าสิ้นปีจะสามารถหาลูกค้ากับกรมธรรม์นี้ได้ถึง 20,000 ราย คิดเป็นค่าเบี้ยประกันกว่า 140 ล้านบาท จากสาขาที่มีอยู่กว่า 900 สาขา
นายปกรณ์ กล่าวต่อไปว่า แนวทางการดำเนินงานธุรกิจแบงก์แอสชัวรันซ์ในครึ่งปีหลังเพื่อครองความเป็นอันดับ 1 ของตลาด เราจะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่เจาะลึกถึงกลุ่มที่เป็น Sub-Segment เพื่อให้เข้าถึงความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
“ในช่วงต้นปีหน้าบริษัทเตรียมร่วมมือกับบริษัทเมืองไทยประกันภัย โดยการออกแคมเปญแบบประกันที่คล้ายกับลูกค้าที่จะครบกรมธรรม์ ซึ่งแพกเกจใหม่ที่จะออกคงไม่แตกต่างจากของเดิมที่มีอยู่ แต่คงจะมีสิทธิพิเศษที่นอกเหนือจากตัวเก่าที่จะครบไป ซึ่งเราต้องทำให้ลูกค้ากลุ่มเก่ายังคงอยู่กับเราให้ได้”
