คปภ.เดินหน้าพัฒนาแบบประกันราคาต่ำ หวังเพิ่มโอกาสรากหญ้าเข้าถึงระบบประกันชีวิตตนเองได้มากขึ้น มั่นใจพร้อมเปิดตัวเดือนสิงหาคมปีนี้ ด้าน “สาระ ล่ำซำ” โชว์ภาพธุรกิจประกันชีวิตเดือนเมษายนโตกว่า 20% ส่วนตัวเลข 4 เดือนกวาดเบี้ยไปแล้วกว่า 1.4 แสนล้านบาท
นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ทาง คปภ.อยู่ระหว่างพัฒนากรมธรรม์ประเภทไมโครอินชัวรันซ์ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากบริษัทประกันในการร่วมศึกษารายละเอียดและปรับปรุง และคาดว่าจะสามารถนำกรมธรรม์ประเภทนี้เปิดขายทั่วไปได้ประมาณเดือนสิงหาคม 2556 อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาต่อจากนี้คงจะต้องศึกษาอัตราเบี้ยและความคุ้มครองอย่างละเอียดอีกครั้งก่อน
“กรมธรรม์ประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อให้ประชาชนกลุ่มรากหญ้าเข้าถึงความคุ้มครองมากขึ้น แต่ต้องทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อเป็นความคุ้มครองรูปแบบเดียวกันถึงจะเหมาะสม”
ทั้งนี้ กรมธนรรม์ดังกล่าวจะต้องเป็นลักษณะที่ผู้บริโภคเข้าใจง่ายในเรื่องของความคุ้มครองชีวิต เนื่องจากในแนวความคิดเบื้องต้นจะเป็นการคุ้มครองผู้เอาประกันในกรณีเสียชีวิตทุกกรณีทั้งเจ็บป่วยจนเสียชีวิต และเสียชีวิตก่อนวัยอันควร เช่น กรณีการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งผู้เอาประกันจะได้รับความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต ค่าปลงศพ รวมถึงคุ้มครองกรณีอุบัติเหตุ
ด้าน นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตในเดือนเมษายนที่ผ่านมามีการเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 20.06% โดยมีเบี้ยประกันชีวิตรวมอยู่ที่ 31,194.19 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่จำนวน 10,016.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.62% และเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไปจำนวน 21,177.57 ล้านบาท โดยมีอัตราการคงอยู่ของกรมธรรม์สูงถึง 90%
ส่วนเบี้ยประกันชีวิตรับรวมสี่เดือนแรกของปีนี้มีจำนวน 140,748.65 ล้านบาท เติบโต 20.31% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาในระยะเดียวกัน ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตเกินความคาดหมายที่ได้ประมาณการไว้เมื่อต้นปีที่ 17.3% โดยเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ 48,350.56 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 37.82% และเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไป 92,398.09 ล้านบาท เติบโต 12.81% ทั้งนี้ เป็นผลมาจากปัจจัยสนับสนุนหลักที่เอื้อต่อธุรกิจประกันชีวิตหลายอย่าง
เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายต่อเนื่อง การมุ่งเน้นสู่ความเป็นเลิศในการให้บริการทุกด้าน การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้มากขึ้นครอบคลุ่มกลุ่มเป้าหมาย การประชาสัมพันธ์ทุกสื่อเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เป็นประโยชน์ต่อประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ คาดหวังให้ประชาชนคนไทยมีอัตราการถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิตจาก 35.14% ในปี 2555 เพิ่มขึ้น 40% หรือประชากรไทย 100 คนมีการทำประกันชีวิต 40 คนภายในปี 2557